ในช่วงเวลาที่ใครหลายคนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น การทำบ้านให้เป็นสเปซที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง สเปซที่อยู่แล้วรู้สึกดี อบอุ่น และปลอดภัย ก็จะช่วยเติมพลังให้ชีวิตของเรามีเรี่ยวแรงและกำลังใจไปทำอะไรได้อีกเยอะ
วันนี้เราแวะมาที่ร้านของแต่งบ้าน Amber Home & Living Store สุขุมวิท 39 ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการ Trail and Tail Pet-Friendly Community ที่คนเมืองมักจะพาน้องหมามาเดินเล่นและทำกิจกรรมต่างๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลาย มีพื้นที่สีเขียวสบายตา และมีคนรักหมามารวมตัวกัน
Amber Home & Living Store คือร้าน selective store ที่ตกแต่งร้านได้น่ารักมากๆ ที่นี่ไม่ได้ผูกติดกับโปรดักต์แค่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง แต่ทุกชิ้นจะถูกคัดสรรโดยเจ้าของร้านและหุ้นส่วน ที่ต่างก็ชื่นชอบการเดินทาง และเมื่อไปที่ไหน เห็นอะไรสวยงาม ก็มักจะซื้อกลับมาเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นของจากอินเดีย อเมริกา ตุรกี อังกฤษ ฯลฯ ทั้งในสไตล์วินเทจ พรีโอน (pre-owned) และแม้แต่ของที่ทำขึ้นใหม่แต่มีสไตล์ที่ลงตัว
ในระหว่างที่เรากำลังเดินชมร้าน คุณอ๊ะ อลิสา สุทัศน์ ณ อยุธยา เจ้าของร้าน และสุนัขเฟรนช์บูลด็อกสุดเฟรนด์ลี่ของเธอ ก็เดินออกมาทักทายเราอย่างเป็นกันเอง เธอเชื้อเชิญให้เรานั่งตรงมุมโซฟาที่มีหมอนสวยๆ วางอยู่เต็มไปหมด ขณะที่รอบข้างก็มีแจกัน ถ้วยน้ำชา และกรอบรูปวางประดับประดา จนเรารู้สึกเหมือนมาเยี่ยมเธอที่บ้าน ทั้งที่จริงแล้วคือร้าน
“มันเริ่มจากการที่พี่และหุ้นส่วนในร้านทุกคนเดินทางบ่อย เราเห็นของบางชิ้นแล้วรู้สึกว่าทำไมไม่มีในเมืองไทยบ้าง แล้วอีกอย่าง ร้าน selective store ที่เมืองนอกก็มีเยอะ แต่เมืองไทยยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าไร เราก็เลยทำร้านนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะรวบรวมของสวยๆ ที่เราชอบ มีหลากหลายแบรนด์ หลากหลายสไตล์ ให้คนไทยได้เข้าถึงง่ายๆ ด้วย” คุณอ๊ะเล่าที่มา
“ชื่อร้าน Amber แปลว่าอำพัน แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เกี่ยวกับความหมายเท่าไรค่ะ เราแค่ชอบซาวด์ในการออกเสียง และมันก็เป็นคำที่ดูกลางๆ โลโก้ก็ทำกันเอง ดูกลางๆ เพื่อที่จะได้ไม่ผูกมัดตัวสินค้า ทั้งในเรื่องสไตล์หรือซัพพลายเออร์” โปรดักต์ที่นี่จึงมีหลากหลาย เรียกว่าอะไรก็ตามที่ตั้งอยู่ในบ้านได้ ก็สามารถหาได้ที่นี่ ตั้งแต่ผ้าปูที่นอน ถ้วย จาน ชาม ผ้าปูโต๊ะ พรม แจกัน กรอบรูป โซฟา เก้าอี้หวาย แต่ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีจุดร่วม นั่นคือความเป็น ethnic งานที่บ่งบอกความเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่น งานแฮนดิคราฟต์ เป็นต้น
“เราเน้น ethnic ไม่เน้นแมสค่ะ พี่หลงใหลใน block print มากๆ และชอบงานแฮนด์เมดที่มีความยูนีก หรือเป็นของหายาก คือจะเป็นของใหม่หรือของเก่าก็ได้ แต่มารวมกันแล้วลงตัว การจัดร้านเองก็เป็นเหมือนไอเดียให้ลูกค้าเห็นด้วยว่า ของชิ้นนี้แมตช์กับชิ้นนั้นแล้วออกมาเป็นยังไง ตอนเปิดร้านมาแรกๆ จะมีความเป็นชิโนซีรีส์ แนวจีนๆ กับ blue and white ซะเยอะ แต่ขายออกไปหมดแล้ว ตอนนี้ที่เห็นก็จะเป็นพวกงานสานหลายชิ้น เพราะเราอยากให้ลูกค้าเห็นว่าพวกของสานมันเป็นแมตทีเรียลที่เหมาะกับประเทศไทย มันค่อนข้างทนกับสภาพอากาศบ้านเรา มีหลายรูปทรง ทำเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ได้หลายอย่าง และพอเอามาจัด มันก็ twist ได้ อยู่กับของฝรั่งก็อยู่ได้ อยู่มุมจีนก็เข้าหมด คนไทยไม่ค่อยชอบเอาหวายตั้งในบ้าน เพราะเขาติดภาพเก้าอี้ไม้เดิมๆ อยู่ แต่บางทีถ้าเราเอาหวายตั้งตรงโต๊ะกินข้าวเนี่ย มันก็เปลี่ยนเป็นเหมือนบ้านฝรั่งได้เลยทันทีเหมือนกันนะคะ” เธอออกไอเดีย
สำหรับชิ้นที่ค่อนข้างสะดุดตาเราที่สุดคือกรอบรูปหน้าปกหนังสือพิมพ์ Le Petit Journal (เลอ เปอติ จูร์นาล) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของฝรั่งเศสในยุคสมัยเดียวกับรัชกาลที่ 5 ของเรา ความคลาสสิกของมันคือ ยุคนั้นยังไม่มีกล้องถ่ายรูป ดังนั้นภาพหน้าปกก็จะเป็นการวาดมือทั้งหมด และครั้งหนึ่งจะตีพิมพ์ประมาณสองแสนฉบับเท่านั้น ดังนั้นการได้ฉบับออริจินัลมาจึงเป็นอะไร rare มากๆ โดยเฉพาะหน้าปกที่เป็นพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 5 ในช่วงที่เสด็จประพาสยุโรป เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีและดำเนินการทางการทูตกับชาติมหาอำนาจ นำไปสู่การพัฒนาสยามประเทศให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น และนั่นก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยยังคงเอกราชมาจนถึงทุกวันนี้แม้ในยุคนั้นจะมีการล่าอาณานิคมที่หนักหน่วงก็ตาม ต้องบอกว่าหนังสือพิมพ์เล่มนี้ได้บันทึกหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญเอาไว้ และก็มีเพียงไม่กี่ฉบับเท่านั้นที่ได้วาระพิเศษบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศของเรา
“เรามีปกฉบับจริงของ Le Petit Journal ที่เป็นหนังสือพิมพ์ยุคกว่าร้อยปีที่แล้ว และ Le Petit Echo de la Mode ซึ่งย่อยออกมาจาก Le Petit Journal อีกที เป็นเรื่องของแฟชั่นไลฟ์สไตล์ เราได้มาจากคอลเล็กเตอร์อีกทีค่ะ ซึ่งปกติถ้าเป็นหน้าปกรัชกาลที่ 5 เนี่ยจะขายเร็วมาก” เธอพาเราไปเดินไปชมใกล้ๆ “เรามีงานสะสมจากพวกคอลเล็กเตอร์เยอะนะคะ พวกที่เป็นวินเทจนี่คือจะวินเทจจริงๆ อายุ 30 ปีอัพ บางชิ้นอายุเป็นร้อยปีก็มี อย่างถ้วยชามสวยๆ พวกนี้”
เสน่ห์ของของบางชิ้นมันมีความหมายกว่าที่เราคิด ไม่ว่าจะเป็นของเก่าที่มีเรื่องราว ของที่ระลึกจากดินแดนแสนไกล หรือแม้แต่ของที่ทำขึ้นใหม่แต่บอกเล่าคุณค่าบางอย่างได้ดี การนำสิ่งเหล่านี้มาตั้งไว้ในบ้าน ก็ทำให้บ้านของเรามีความหมายมากขึ้นไปด้วย
ร้าน Amber Home เวลาเปิด-เปิด จันทร์-พฤหัสบดี 11:00-18:30น., ศุกร์-อาทิตย์ 11:00-19:00น. ตั้งอยู่ที่โครงการ Trail and Tail Pet-Friendly Community ในซอยสุขุมวิท 39 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Amber Home