แชร์เคล็ดลับสะสมไมล์ ถือบัตรกี่ใบ เอาไมล์เข้าที่ไหนดี

การขึ้นเครื่องบินฟรี ไปเดินทางท่องโลก น่าจะเป็นความฝันของหลายๆ คนเลยนะคะ

ซึ่งหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ความฝันนั้นเป็นจริงได้ก็คือ “การสะสมไมล์สายการบิน” เพื่อแลกตั๋วรางวัลบัตรโดยสารตามระยะทางที่แต่ละสายการบินกำหนด

ไมล์ได้มาจากไหนบ้าง?

1. การเดินทางโดยเครื่องบิน — ทุกครั้งที่บิน เราก็จะได้รับไมล์หรือคะแนน สะสมเข้าบัญชีสมาชิกของเราเอง ยิ่งบินไกลก็ยิ่งได้คะแนนมาก เอาไปแลก benefit ได้เร็วขึ้น โดยที่แต่ละชั้นโดยสารจะได้รับจำนวนไมล์สะสมไม่เท่ากัน เช่น ในระยะทางบินที่เท่ากัน ถ้าเราบินชั้นธุรกิจและเฟิร์สคลาสก็จะได้คะแนนมากกว่าบินชั้นประหยัด และนอกจากนั้นภายในแต่ละชั้นเขาก็ยังแบ่งรหัสคลาสของตั๋วปลีกย่อยลงไปอีก เช่น ชั้นประหยัดจะมี Y, B, M, Q, H, T, K, S, G, V, W, L หรือชั้นธุรกิจก็จะมี C, D, J, Z แต่ละรหัสคลาสก็จะสะสมไมล์ได้ไม่เท่ากัน แน่นอนว่าตั๋วที่ราคาถูกกว่า ย่อมสะสมไมล์ได้น้อยกว่า และที่สำคัญที่หลายคนพลาดก็คือ ตั๋วโปรโมชั่นที่เราซื้อมาถูกมากๆ หรือตั๋วที่เราซื้อกับทัวร์บางแพ็กเกจก็อาจสะสมไมล์ไม่ได้เลย

Benefit ของการแลกรางวัลจากการสะสมไมล์ นอกจากตั๋วเครื่องบินแล้ว ก็ยังมีรางวัลอัพเกรดตั๋วโดยสารจาก economy ไปเป็น business หรือจาก business ไปเป็น first class รวมไปถึงห้องพักตามโรงแรมต่างๆ ทั่วโลก แพ็กเกจทัวร์ ตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว รถเช่า รถรับส่งสนามบินหรือรับส่งจากโรงแรมไปยังสถานที่ท่องเที่ยว หรือแม้แต่การแลกซื้อสินค้าและบริการด้านไลฟ์สไตล์ต่างๆ อย่างเช่น กระเป๋าเดินทาง กระติกน้ำ และโปรแกรมสปาทรีตเมนต์ ฯลฯ

2. การเข้าพักในโรงแรมบางแห่งที่เข้าร่วมโปรแกรมสะสมแต้มกับสายการบิน
3. การเช่ารถกับบางบริษัทที่มีโปรแกรมสะสมแต้มกับสายการบิน

4. โอนคะแนนจากบัตรเครดิตที่เข้าร่วมรายการสะสมแต้มกับสายการบินมาเป็นไมล์สะสมได้

5. เว็บไซต์จองโรงแรมหรือแอพฯจองโรงแรมบางอัน เช่น ถ้าจองโรงแรมผ่าน Agoda สามารถรับเป็นไมล์สะสมเข้า Asia Miles ได้

หลายคนละเลยการสะสมไมล์ เพราะส่วนหนึ่งอาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้บินบ่อยขนาดนั้น หรืออาจจะรู้สึกยุ่งยากเวลาจองตั๋ว ต้องคอยมาจองแต่สายการบินเดิมๆ รึเปล่า ทั้งที่บางทีมีตัวเลือกสายการบินอื่นที่ถูกกว่า ทำให้เกิดการบินทิ้งบินขว้าง ปล่อยไมล์ไปเฉยๆ โดยเปล่าประโยชน์

แต่จะบอกว่านั่นไม่จริงเลยค่ะ มูลค่าของการสะสมไมล์นั้นมีมากกว่าที่เราคิดไว้เยอะ อย่างเวลาเราบินไปกลับยุโรป ถึงแม้จะเป็นชั้นประหยัดก็ตาม เราก็จะได้ไมล์สะสมเกือบหมื่นไมล์แล้ว บินสัก 2-3 ครั้ง เราก็ได้ตั๋วไปกลับในประเทศละ หรือไม่ก็อาจจะได้ถึงประเทศเพื่อนบ้าน ตีเป็นมูลค่าก็หลักพันบาทนะ และต่อให้เรายังสะสมไมล์ได้ไม่ถึงเกณฑ์แลกตั๋วเครื่องบินฟรีก็ตาม แต่เขาก็ยังมี benefit อื่นๆ ให้เลือกอีกเพียบ ฉะนั้นถ้าใครทิ้งสิทธิประโยชน์ตรงนี้ไป ก็น่าเสียดายแย่

วันนี้ La Vie en Road จะมาแชร์เคล็ดลับการสะสมไมล์แบบไม่ได้รับสปอนเซอร์ที่ไหนเลยค่ะ เป็นประสบการณ์ตรงล้วนๆ จากการบินบ่อยแล้วก็สะสมไมล์จนได้ทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พักมาหลายรอบแล้ว เลยอยากให้ดูกันว่าในบรรดาสายการบินที่มีอยู่ทั่วโลกนั้น เราจะเลือกสมัครสมาชิกโปรแกรมไหน ให้การสะสมไมล์เป็นไปอย่างครอบคลุมและคุ้มค่าที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องไปไล่สมัครสมาชิกทุกสายการบิน แล้วก็ไม่จำเป็นต้องบินกับสายการบินเดิมๆ ตลอด อย่างที่เคยเข้าใจ เพราะจริงๆ แล้ว ยิ่งมีบัตรน้อย ไมล์สะสมก็จะมีอยู่ในโปรแกรมได้เร็วกว่าและมากกว่าการมีบัตรหลายใบแล้วมีไมล์อยู่อย่างละนิดละหน่อย ซึ่งเอาไปแลก benefit อะไรไม่ได้เลย

แต่ละคนจะมีเทคนิคเรื่องการสะสมไมล์ต่างๆ กันไปหลายวิธีนะคะ แต่เราขอแชร์ในแบบวิธีของเราให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นสะสมไมล์กันค่ะ

เคล็ดลับในการเลือกของเรา อย่างแรกก็คือสมัครสมาชิกกับสายการบินที่เราบินอยู่บ่อยๆ หรือมีเส้นทางบินที่เราต้องการ เช่น ถ้าเราเดินทางบ่อยเฉพาะแถบประเทศในเอเชีย เราก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจโปรแกรมของสายการบินฝั่งยุโรปหรือตะวันออกกลาง และสองก็คือเช็คบัตรสะสมไมล์ของกลุ่มพันธมิตรสายการบินต่างๆ เพราะโปรแกรมการสะสมไมล์ไม่ได้จำกัดว่าจะสะสมได้จากสายการบินของตัวเองเท่านั้น แต่สามารถสะสมจากสายการบินพันธมิตรในเครือเดียวกันได้ด้วย เผื่อถ้าหากสายการบินไหนมีบริการเที่ยวบินไปในจุดหมายที่เรากำลังจะไป แต่มีราคาถูกกว่า ก็จะได้เลือกกลุ่มสายการบินนั้น พร้อมสะสมไมล์ไปด้วยได้เหมือนกัน

—————

มาดูกันค่ะว่าตอนนี้เราถือบัตรสมาชิกของที่ไหนอยู่บ้าง?

1. Royal Orchid Plus (ROP) โปรแกรมสะสมไมล์ของการบินไทยและกลุ่มสายการบิน Star Alliance

• แน่นอนค่ะว่าบัตรนี้คนไทยไม่มีไม่ได้เลย เพราะด้วยความที่เป็นสายการบินแห่งชาติ จึงมีเส้นทางบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองต่างๆ มากมายครอบคลุมทุกทวีป ถ้าในประเทศเองก็มีครบทุกจังหวัดที่มีสนามบินพาณิชย์ แล้วก็ยังมีประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ยุโรป หรืออเมริกา มีไฟลท์บินให้เลือกหลากหลายที่สุดแล้วก็เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบเสียเวลาต่อเครื่องด้วย
• ปัจจุบันสายการบินในเครือ Star Alliance มีทั้งหมด 28 สายการบิน ได้แก่ APRIA, AEGEAN, Air Canada, Air China, Air India, Air New Zealand, ANA, Asiana Airlines, Austrian, Avianca, Brussels airlines, CopaAirlines, Croatia Airlines, Egyptair, Ethiopian, EVA Air, LOT Polish Airlines, Lufthansa, SAD, Shenzhen Airlines, Singapore Airlines, South African Airways, Swiss Air, Air Portugal, Thai airways, Turkish airlines, United airline

• ยกตัวอย่าง ถ้าเราบินกับ Swiss Air, EVA Air หรือ Lufthansa เราก็เอาไมล์สะสมเข้า ROP ได้เหมือนกัน

2. Asia Miles โปรแกรมสะสมไมล์ของ Cathay Pacific

• อันนี้เราจะไว้ใช้เวลาบินไปทางแถบฮ่องกงหรือจีน
• ปัจจุบันสายการบินที่เป็นพันธมิตรกับ Asia Miles มีทั้งหมด 27 สายการบิน ได้แก่ Cathay Pacific, Cathay Dragon, American Airlines, British Airways, Finnair, Iberia, Japan Airlines, LAN, Malaysia, Qantas, Qatar, Royal Jordanian Airlines, S7 Airlines, SriLankan Airlines, TAM, Are Lingus, Air Canada, Air China, Air New Zealand, Alaska Airlines, Austrian Airlines, Bangkok Airways, Gulf Air, Jet Airways, Lufthansa, Shenzhen Airlines, Swiss Air

• ยกตัวอย่าง ถ้าเราบินในประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้านแล้วเรารู้สึกว่าตั๋วการบินไทยรูทนั้นแพงไป เราก็อาจจะซื้อตั๋ว Bangkok Airways แล้วเอาไมล์สะสมมาเข้า Asia Miles

3. Skywards โปรแกรมสะสมไมล์ของ Emirates

• อันนี้เราใช้เวลาบินไปยุโรปหรืออเมริกา เพราะสายการบินตะวันออกกลางราคาย่อมเยาและก็บริการดี
• ปัจจุบันสายการบินในเครือ Skywards มีทั้งหมด 14 สายการบิน ได้แก่ Air-Mauritius, Alaska Airlines, easyJet, flydubai, GOL, Japan Airlines, JetBlue, Jetstar, Korean Air, Malaysia Airlines, Qantas, S7 Airlines, South African Airways, TAP Portugal

• นอกจากนี้ เอมิเรตส์ยังเป็นสายการบินที่มีพาร์ตเนอร์อยู่นอกกลุ่มพันธมิตรของตัวเองด้วย นั่นก็แปลว่าเราสามารถสะสมไมล์จากสายการบินอื่นๆ ได้หลากหลายพอสมควร ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว
• ยกตัวอย่าง ถ้าเราบิน Jet Star หรือ Korean Air เราสามารถเอาไมล์สะสมเข้า Skywards ได้

—————

บินครั้งนี้ เอาไมล์สะสมเข้าโปรแกรมไหนดี

เราเป็นคนที่ตกเลขมาตั้งแต่เด็ก ฉะนั้นการคำนวณไมล์เป็นเรื่องปวดหัวมากสำหรับเราเลยแหละ ดังนั้นเราจึงใช้ตัวช่วยที่เราคิดว่ามันเวิร์กมากๆ นั่นก็คือ เว็บไซต์ www.wheretocredit.com ซึ่งจะคำนวณให้เราเสร็จสรรพเลย แค่กรอกสายการบิน เส้นทาง และคลาสตั๋ว เว็บก็จะสรุปออกมาให้ว่าเราสามารถเอาไมล์เข้าโปรแกรมไหนได้บ้าง และโปรแกรมไหนเราจะได้ไมล์เป็นจำนวนเท่าไร ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่เท่ากัน เราก็เลือกเลยค่ะว่าตอนนี้เราถือบัตรของที่ไหนอยู่ และเอาเข้าบัตรไหนจะคุ้มสุด

สิ่งที่น่าคิดก็คือ บางครั้งการสะสมไมล์เข้าไปที่โปรแกรมโดยตรงของสายการบินนั้น ก็ไม่ได้แปลว่าจะได้จำนวนไมล์มากที่สุดเสมอไป เช่น บินการบินไทยชั้นธุรกิจไปปารีส ถ้าเอาเข้า ROP จะได้ 7,439 ไมล์ แต่ถ้าเอาเข้า Miles & More โปรแกรมสะสมไมล์ของกลุ่มสายการบิน Lufthansa จะได้ไมล์มากเป็น 2 เท่า เท่ากับ 11,902 ไมล์เลยทีเดียว

—————

ข้อสำคัญที่อยากจะทิ้งท้ายไว้ ก็คือ

• อย่าลืมว่าไมล์สะสมทุกโปรแกรมมีวันหมดอายุ อย่าทิ้งไว้นานเกิน
• ทุกครั้งที่เราได้ตั๋วเครื่องบินฟรีจากการแลกไมล์ เรายังต้องจ่ายภาษีด้วยนะคะ ซึ่งก็เป็นเงินจำนวนน้อยมากหากเทียบกับราคาตั๋วทั้งหมด ยังไงก็คุ้มค่ะ
• การที่เรายิ่งสะสมไมล์ได้มากๆ ระดับขั้นของบัตรสมาชิกก็จะถูกเลื่อนขึ้นไปสูงขึ้น และ benefit ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย เช่น การใช้เลานจ์ หรือเลนพรีเมียมในการเช็คอิน ไม่ต้องเสียเวลาต่อแถว
• ตั๋วที่ถูกที่สุดไม่ใช่ตั๋วที่คุ้มที่สุด จำไว้ว่าถ้าตั๋วที่ราคาถูกลงไปนิดหน่อยแต่สะสมไมล์ไม่ได้เลย การเลือกตั๋วที่แพงขึ้นมานิดหน่อยแต่สะสมไมล์ได้ด้วย อาจจะได้ benefit ที่มีมูลค่ามากกว่าส่วนต่างของราคานิดหน่อยตรงนั้น
• อย่าลืมกรอกรหัสสมาชิกทุกครั้งที่มีการจองตั๋วเครื่องบินทุกครั้ง เพราะนั่นคือวิธีที่ทำให้เราได้ไมล์สะสมเร็วที่สุด แต่ถ้าเกิดลืมก็ยังสามารถเก็บ Boarding Pass มาเคลมไมล์ในหน้าเว็บทีหลังได้ แต่มันจะได้ไมล์เข้ามาในระบบช้ากว่ามากเลยค่ะ
• สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนเอนจอยกับการท่องเที่ยว และอย่าลืมสะสมไมล์ไปด้วยนะคะ!