ใจกลางพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา Tribe Phnom Penh (ไทรบ์ พนมเปญ) คือหนึ่งในโรงแรมที่โลเกชั่นดีที่สุด เพราะใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในตัวเมือง อยู่ใกล้วัดพนมในระยะเดินเพียง 5 นาที ใกล้พระบรมมหาราชวังและ National Museum of Cambodia ตลาด Central Market รวมถึงย่านสตรีทอาร์ต มาพร้อมวิวอันผ่อนคลายของโตนเลสาบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำโขง แล้วรอบข้างก็ยังมีร้านกาแฟชิคๆ บาร์ลับ และตึกเฟรนช์โคโลเนียลให้เดินชม
เรามาเที่ยวพนมเปญด้วยความที่ตั้งใจอยากมาชมสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวฮิปๆ ใหม่ๆ รวมถึงมาดูวิถีชีวิตของผู้คนในเมือง โรงแรมที่เราเลือกจึงดูจากโลเกชั่นเป็นหลัก และ Tribe hotel ก็ตอบโจทย์ทุกอย่าง ทั้งยังมีเรื่องของราคาที่สมเหตุสมผล และความเป็นดีไซน์โฮเทลที่ให้ความรู้สึกโมเดิร์นและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบแบบไม่เวิ่นเว้อสำหรับนักเดินทางยุคใหม่
จากสนามบินนานาชาติพนมเปญ เรานั่งแท็กซี่มาที่โรงแรม Tribe Phnom Penh Post Office Square ใช้เวลาราวๆ ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น โดยเรารีเควส Early Check-in ไว้ และทางโรงแรมก็จัดให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ชั้นล่างสุดของโรงแรมเป็นพื้นที่ drop off เท่านั้น พนักงานจะกดลิฟต์ให้เราขึ้นมาที่ล็อบบี้ชั้น L เพื่อทำการเช็คอิน และเมื่อลิฟต์เปิดออก เราก็เห็น vibe ที่สดใส ด้วยสีสันสนุกสนาน รวมถึงการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ใช้เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เท่ ประดับงานศิลปะและของตกแต่งน่ารัก
Travel Tips: จากสนามบินพนมเปญ สามารถเรียกแท็กซี่หรือตุ๊กตุ๊กที่จอดรออยู่ที่แอร์พอร์ต หรือเรียกจากแอปฯ Grab จากที่เราใช้ในเมืองไทย ก็ได้เช่นกัน สามารถเลือกจ่ายเงินสดหรือตัดบัตรเครดิตที่เราบันทึกไว้ในแอปฯ เป็นสกุลเงินเรียลของกัมพูชา ค่าแท็กซี่จากแอร์พอร์ตมา Tribe Phonm Penh ประมาณ 34,xxx เรียล และตุ๊กตุ๊กประมาณ 19,xxx เรียล)
พื้นที่ล็อบบี้จัดสรรสเปซไว้หลากหลายฟังก์ชั่น
ชั้นของล็อบบี้ไม่ได้ใช้งานแค่เฉพาะการเช็คอิน แต่เป็นการจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัว แบ่งส่วนที่เป็นเคาน์เตอร์เช็คอินและที่นั่งรอ ถัดออกมาจะเป็นเคาน์เตอร์เครื่องดื่มที่แขกส่วนมากจะลงมาเอนจอยในช่วง happy hour
ใกล้ๆ กันมีเคาน์เตอร์ขนม เรามองเห็นเค้กช็อกโกแลต และทาร์ตสตรอว์เบอรี่น่าทานอยู่ในตู้กระจก เขยิบมาอีกนิดจะเห็นชั้นวางหนังสือที่เป็น partition กั้นส่วนระหว่างพื้นที่เช็คอิน และพื้นที่นั่งเล่นหรือทำงาน ทั้งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ โซฟานุ่มๆ และแบบที่มีคอกกั้นเป็นส่วนตัว เขาเตรียมปลั๊กไว้ให้พร้อม สามารถมานั่งชิล นั่งพูดคุยสังสรรค์กับเพื่อนๆ ก็ได้เต็มที่ ตามคอนเซ็ปต์ของพื้นที่สำหรับ work, play, eat, meet, or just kill time
ชั้นเดียวกันนี้ยังเป็นชั้นของสระว่ายน้ำที่มองเห็นวิวเมืองและวิวโตนเลสาบ ข้างๆ กันเป็นฟิตเนสที่มีเครื่องเล่นทันสมัย และห้อง co-working space ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเงียบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารจีนกวางตุ้ง Hong Bao ซึ่งเป็น One of the best Chinese restaurants ของเมืองพนมเปญ มาเปิดด้านในโรงแรมเลย
ห้องพักตอบโจทย์นักเดินทางรุ่นใหม่ในทุกฟังก์ชั่น
Tribe เป็นแบรนด์ที่ถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศออสเตรเลียในปี 2560 ด้วยวิสัยทัศน์ของ Mark และ Melissa Peters ที่ใช้ดีไซน์เข้ามาออกแบบโรงแรมให้ตอบสนองความต้องการของนักเดินทางรุ่นใหม่อย่างแท้จริง นั่นคือดีไซน์สวย ครบถ้วนทุกการใช้งาน อินเทอร์เน็ตแรง มีพื้นที่สำหรับนั่งทำงานอย่างสะดวกสบาย และบวกกับมาตรฐานของโรงแรมในเครือ Accor แล้ว จึงมั่นใจได้ในมาตรฐานและคุณภาพของการเข้าพัก
ห้องพักทั้งหมดมี 260 ห้อง ห้องเริ่มต้นมีขนาด 19 ตารางเมตรเท่านั้น และใหญ่สุด 35 ตารางเมตร จะเห็นว่าเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่ แต่เราไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย (ใครที่นึกกังวลว่าจะเป็นแบบโรงแรมเล็กๆ ในฮ่องกงที่แปรงฟันแล้วข้อศอกชนกำแพง หรือกางกระเป๋าเดินทางแล้วไม่มีที่เดิน ลืมภาพเหล่านั้นไปได้เลย) และถ้าเข้าไปดูรายละเอียดในห้องจะต้องรู้สึกว้าวกับไอเดียในการแบ่งสรรสเปซอันชาญฉลาด
เราเข้าพักห้องแบบมีระเบียงเล็กๆ กั้นด้วยกระจกใสตั้งแต่พื้นถึงเพดาน เปิดให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้อย่างเต็มที่ แต่ก็มีม่านที่ใช้เนื้อผ้าหนา หนาในระดับที่กันแสงอาทิตย์สำหรับคนที่อยากนอนตื่นสาย และยังกันเสียงจากด้านนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย อันนี้เราทดลองมาแล้วกับมือ ชอบมากๆ
จากระเบียงมองลงไปจะเป็นวิวสระว่ายน้ำและมองเห็นโตนเลสาบด้วย ในห้องมีเตียงนอนหนานุ่มขนาดใหญ่ มีทีวีอยู่ที่ผนังปลายเตียง และโต๊ะวางของขนาดเล็ก ใช้นั่งทำงานได้ มีตู้เย็นขนาดจิ๋วที่ใส่ขวดน้ำหรือของกินเล็กๆ และฝาตู้เย็นทำหน้าที่เป็นกระจกเงาไปในตัว วางเครื่องทำกาแฟ Nespresso ไว้ให้ในทุกห้องพัก และตรงตู้เสื้อผ้ามีชุดคลุมอาบน้ำเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงเครื่องรีดผ้าไอน้ำขนาดเล็กแต่ใช้งานได้ดีมาก เป็นหนึ่งสิ่งที่เราชอบมากจนอยากซื้อเก็บไว้ที่บ้านบ้าง
ห้องน้ำมีฝักบัวและเรนชาวเวอร์ไหลแรง พร้อม amenities ดูแลผิวและผมกลิ่นหอมโดย Kevin Murphy บรรจุขวดแบบพิเศษทำจากวัสดุรีไซเคิลมาจากทะเล Ocean Bound Material เป็นมิตรทั้งสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้ ประตูเดียวสามารถใช้กั้นทั้งห้องอาบน้ำหรือห้องส้วม โดยไม่ต้องติดสองประตูให้เปลืองพื้นที่ ส่วนอ่างล้างหน้าจัดวางเอาไว้นอกห้องน้ำ เป็นพื้นที่โซนแห้งสำหรับแปรงฟัน ล้างเครื่องสำอาง หรือแต่งหน้าเป่าผม สะดวกดี
ร้านอาหารชั้นรูฟท็อปกับวิวเมืองและโตนเลสาบแบบ 360 องศา
สำหรับร้านอาหารของโรงแรม Hemisphere Restaurant and Bar จะอยู่ที่ชั้น 11 หรือชั้นรูฟท็อป เป็น all day dining ให้บริการตั้งแต่มื้อเช้าที่เป็นบุฟเฟต์ไปจนถึงช่วงกลางคืนที่ให้เราเอนจอยกับวิวเมืองพนมเปญยามค่ำคืนแสนโรแมนติก เมนูเป็นอาหารนานาชาติแต่ผสมผสานอิทธิพลอาหารเขมรเข้าไปด้วย ได้เป็นเมนูฟิวชั่นหลากหลาย มีสเต็กและสปาเก็ตตี้ที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น อย่างเช่นปลาที่มาจากแม่น้ำโขง ทานกับเครื่องเทศเขมรหรือซอสรสจัดจ้าน
ส่วนม็อกเทลหรือเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกฮอลล์ เราขอแนะนำซิกเนเจอร์อย่าง Le Mekong ที่ได้รสชาติของแครนเบอร์รี่ ขิง และน้ำเลมอน และ Tonle Sap by Night ที่มาในสีม่วงสุดลึกลับ เป็นส่วนผสมของอัญชัน ขิง น้ำมะนาวสด และไซรัป
สรุปคือ Tribe Phnom Penh เป็นโรงแรมที่ตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่อย่างมาก อะไรที่ต้องการก็ใส่ไว้ครบ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่มาให้รุงรัง ไม่น่าเชื่อว่าในพื้นที่ขนาดย่อม แต่เราได้การเข้าพักที่สะดวกสบายมาก ทุกวันหลังจากสำรวจเมืองพนมเปญเสร็จแล้วกลับเข้ามา มันคือการพักผ่อนที่แสนสบายใจสุดๆ เลย
Tribe Phnom Penh Post Office Square
ราคาเริ่มต้น ประมาณ 3,5xx บาท/คืน
ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://all.accor.com/hotel/B5M5/index.en.shtml หรือ www.facebook.com/TribePhnomPenh