เหนือหาดลายัน เกาะภูเก็ต รีสอร์ตหรูตั้งอยู่บนเนินเขา ชื่อว่า The Pavilions Phuket (เดอะ พาวิลเลียนส์ ภูเก็ต) ซึ่งประกอบไปด้วยวิลล่าและห้องสวีทกว่า 95 ห้อง โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ Ocean View Pool Villa ที่พักริมหน้าผาซึ่งมองเห็นวิวอันดามันได้จากเตียงนอนและสระว่ายน้ำส่วนตัว
ธรรมชาติที่ร่มรื่นและวิวพาโนรามากว้างๆ แบบนี้แหละ เหมาะที่สุดสำหรับคนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ พื้นที่สีแดงเข้มซึ่งถูกล็อกดาวน์มากว่า 4 เดือน
เดินทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ตกับ Thai Vietjet Air
กันยายน 2564 ไฟลท์บินในประเทศกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เราตัดสินใจเก็บกระเป๋าไปภูเก็ตสัก 5 วัน โดยเลือกเดินทางกับสายการบิน Thai Vietjet Air และต้องเตรียมเอกสารสำหรับการเข้าภูเก็ต ได้แก่
1.ใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ (ไม่เกิน 72 ชั่วโมง)
2.ใบรับรองวัคซีน (ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม ครบ 2 โดส, แอสตราเซเนก้า/ไฟเซอร์/โมเดอร์นา อย่างน้อย 1 โดส, J&J 1 โดส)
3.ลงทะเบียนรายงานตัวเข้าภูเก็ตใน www.gophuget.com พร้อมเก็บ QR Code
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ใกล้เคาน์เตอร์เช็คอิน ทางสายการบินตั้งโต๊ะแยกออกมาเป็นพิเศษเพื่อตรวจเอกสารของผู้โดยสารที่จะเดินทางไปภูเก็ตโดยเฉพาะ ก่อนจะเข้าไปที่เคาน์เตอร์ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ทำโครงการ Phuket Sandbox เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงมีความเข้มงวดกับนักท่องเที่ยวในประเทศมากกว่าจังหวัดอื่น อาจใช้เวลาเพิ่มขึ้นสักหน่อย แต่เจ้าหน้าที่ของเวียตเจ็ทก็ดูแลได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดี แนะนำให้มาเช็คอินก่อนเวลาไฟลท์บินสัก 2 ชั่วโมงจะกำลังสบายๆ ไม่รีบไม่ลน
เมื่อรับบอร์ดดิ้งพาสมาแล้วก็เดินไปที่เกท ช่วงสถานการณ์โควิดแบบนี้ บนเครื่องบินจะจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง นั่งได้แค่ริมหน้าต่างและริมทางเดินเท่านั้น เว้นว่างแถวกลางไว้ และจะไม่มีเสิร์ฟน้ำหรือของว่างใดๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แต่สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบินเวียตเจ็ทระหว่างวันที่ 24-28 กันยายน 2564 เขามี travel kit เป็นเจลแอลกฮอลแบบนี้แจกฟรีให้ด้วย
ทางไปจองตั๋วเครื่องบิน https://skyfun.vietjetair.com/
เมื่อถึงสนามบินภูเก็ต เราแค่โชว์ใบรับรองวัคซีนและผลตรวจโควิดอีกครั้ง พร้อมกับ QR Code จาก www.gophuget.com ก็เข้าไปรับกระเป๋าที่สายพานได้เลย
รีสอร์ทบนเนินเขาท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว
เครือโรงแรม The Pavilions Hotels & Resort นี้ก่อตั้งโดยชาวอังกฤษ และมีอยู่ในหลายเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง สำหรับเมืองไทยนอกจากภูเก็ตแล้ว ก็มีที่กระบี่ และกำลังจะเปิดตัวที่ตรังในเดือนธันวาคม 2564 นี้ด้วย ส่วนต่างประเทศก็เช่น นิเซโกะ, บาหลี, ฮ่องกง, มองโกเลีย, มาดริด, โรม, อัมสเตอร์ดัม และลิสบอน เป็นต้น
ความเก๋คือเขารับชำระค่าห้องพักเป็นเงินคริปโตด้วยนะ ทันสมัยถูกใจคนรุ่นใหม่มากๆ (ใครถือเหรียญไว้ไม่ติดดอย เอามาจองที่พักได้)
รถของทาง The Pavilions Phuket มารอรับเราที่สนามบิน และใช้เวลาเพียง 20 นาทีก็มาถึงทางเข้ารีสอร์ท เป็นอุโมงค์ต้นไผ่ เหมือนเรากำลังเข้าสู่โลกที่มีแต่ธรรมชาติจริงๆ
วิลล่าส่วนตัวที่มองเห็นวิวอันดามันได้จากเตียงนอน
ที่พักของ The Pavilions Phuket แบ่งเป็นวิลล่า 54 หลัง และห้องสวีท 41 ห้อง สำหรับวิลล่านั้น ทุกหลังจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว รวมถึง Ocean View Pool Villa ที่เราได้มาพักในครั้งนี้ ขนาดห้องใหญ่มากๆ ถึง 310 ตร.เมตร แบ่งเป็นห้องนอน โซนห้องอาบน้ำ ห้องนั่งเล่น และเคาน์เตอร์ทำครัว มีอ่างล้างจานให้ด้วย
ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่นสามารถเปิดประตูเชื่อมไปสู่ระเบียงและสระว่ายน้ำได้ สระนี้ยาวถึง 12 เมตรเลยทีเดียว จะนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกตรงนี้ พร้อมกับจิบเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้ว ก็เหมือนได้ปลดปล่อยความเครียดจากการล็อกดาวน์ไปอย่างปลิดทิ้ง
การตกแต่งห้องเป็นสไตล์โมเดิร์น แต่ผสานกลิ่นอายแบบตะวันออกอยู่ในรายละเอียดหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ รูปทรงหลังคา และของตกแต่ง การออกแบบใช้สีอยู่ไม่กี่สี เช่น ขาว ดำ แดง ดูเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย มีทีวีจอแบนขนาดใหญ่ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอน แล้วก็มีโซฟากับเดย์เบดขนาดใหญ่ ให้เราพร้อมล้มตัวเอนนอนตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น ก็เรามาพักผ่อนนี่นะ
ส่วนห้องน้ำก็กว้างขวาง มีอ่างล้างหน้าแยกฝั่ง him/her และมีอ่างอาบน้ำพร้อม Bath salt ไว้ขัดผิว ซึ่งช่วงโควิดนี้ สปาส่วนกลางเขาปิดบริการ แต่เราสามารถเรียกให้เธอราพิสต์เข้ามานวดอย่างเป็นส่วนตัวที่ห้องพักได้ สปาที่นี่ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ผสมผสานทั้งศาสตร์ตะวันตกและตะวันออก โดยเขาจะจัดการเรื่องน้ำอุ่นในอ่าง จุดเทียน พรมน้ำหอม แล้วก็เปิดเพลงคลอเบาๆ เหมือนกับเนรมิตห้องพักของเราให้เป็นสปาสุดไพรเวทกันไปเลย
อาหารเน้นวัตถุดิบท้องถิ่นและกลิ่นอายโคโลเนียล
ห้องอาหารมี 2 แห่ง ได้แก่ The Plantation Club และ Firefly แต่ช่วงนี้ทางรีสอร์ทเปิดบริการแค่ The Plantation Club ซึ่งเสิร์ฟอาหารไทยที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่น มีเมนูร่วมสมัยและเมนูพื้นเมืองของภูเก็ต บรรจงจัดจานอย่างละเอียดอ่อนสวยงาม รสชาติก็ดีด้วย ถึงกับเคยได้รับการจัดอันดับโดย Thailand Tatler ให้เป็น Best Restaurant ด้วยคะแนนที่สูงมากๆ
ด้วยความที่ The Pavilions Phuket มีพื้นที่สวนกว้างขวาง วัตถุดิบหลายๆ อย่างในสวนก็จะถูกนำมาปรุงให้เราทานกันในห้องอาหารนี้ด้วย เราประทับใจอาหารเช้าที่มีให้เลือกหลากหลาย นอกจากขนมปังหลากชนิดแล้ว ก็ยังมีเนยและแยมให้เลือกหลายรสชาติด้วย ขณะที่สเตชั่นไข่ พ่อครัวก็มาปรุงให้สดๆ ตรงหน้า แถมเรายังสามารถสั่ง a la carte เพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น French Toast, Egg benedict หรือสลัดแซลมอนต่างๆ ก็ทั้งสวยและอร่อย
ขณะที่อาหารเย็น ก็จะเน้นอาหารไทยพื้นเมืองภูเก็ตอย่างหมูฮ้อง แกงปูใบชะพลู น้ำพริกกุ้งเสียบ หมูสะเต๊ะ หรือแม้แต่ซีฟู้ดสดๆ เขาก็คัดเลือกวัตถุดิบมาแบบพรีเมียมสุดๆ
ที่จริงเขามีบาร์เปิดโล่งอย่าง 360 Bar ด้วย เสิร์ฟพวกทาปาสและเครื่องดื่มหลากหลาย เป็นอีกบาร์หนึ่งในภูเก็ตที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมากๆ แต่น่าเสียดายที่ช่วงนี้ปิดปรับปรุง หวังว่าเรามาเยือนภูเก็ตครั้งหน้า จะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง เมื่อหลายๆ ส่วนของรีสอร์ทรีโนเวทเสร็จ คงจะ fulfill ขึ้นกว่านี้อีกมาก ถือว่าเป็นที่พักลักชัวรี่อีกแห่งในภูเก็ตที่น่ามาสัมผัสประสบการณ์เป็นอย่างยิ่ง สำหรับคนที่รักธรรมชาติ อยากชาร์จแบตพลังงานร่างกายและจิตใจ คุณจะได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติจริงๆ ตั้งแต่ตอนตื่นจนถึงเข้านอนเลยล่ะ
Travel Tips
- ทางโรงแรมมีรถชัทเทิลรับส่งฟรีที่ Porto de Phuket (shopping mall) และหาดลายัน ตามตารางเวลา 11.00น. / 15.00น. / 17.00น.
The Pavilions Phuket
ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง ภูเก็ต
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่พักได้ที่ https://www.pavilionshotels.com/Phuket โทร. 076-317-600
