วันแรกที่มาถึงบริสเบน ออสเตรเลีย สถานที่แรกที่เราก้าวลงจากรถคือที่ด้านหน้าโรงแรม The Fantauzzo ในย่าน Howard Smith Wharves และวันนั้นเป็นวันเสาร์
เราไม่เคยรู้สึกว่าวีคเอนด์ของเมืองไหนสดใสเท่ากับที่เมืองบริสเบนนี้เลยค่ะ โดยเฉพาะที่ย่านนี้ ผู้คนพากันออกมาพบปะสังสรรค์เพื่อนฝูง กินข้าวบ้าง นั่งจิบเครื่องดื่มดูวิวบ้าง และบางกลุ่มก็เป็นแก๊งเพื่อนเจ้าสาวที่พากันมาจัดปาร์ตี้สละโสด บรรยากาศมันคึกคักและทุกคน (ทั้งผู้หญิงผู้ชาย) ก็แต่งตัวดีมากจนเราต้องเหลียวหลังจนเวียนหัวไปหมด แต่นี่แหละคือฟีลลิ่งของวันพักผ่อนที่แท้จริง
ย่าน Howard Smith Wharves นี่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1930s ริเริ่มโปรเจ็กต์โดย Queensland Government ที่ต้องการสร้าง area พักผ่อนหย่อนใจให้กับผู้คนในเมืองได้มาผ่อนคลายตัวเองจากความเครียดในการทำงาน แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นย่านฮอตย่านหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาบริสเบน เพราะมีทั้งธรรมชาติ มีสถานที่ประวัติศาสตร์ให้เดินชม แล้วก็มีร้านอาหารเก๋ริมแม่น้ำให้นั่งชิล
- ดูภาพท่องเที่ยวเมืองบริสเบนแบบเต็มๆ ได้ที่ > Brisbane เมืองสุดชิลที่มีต้นไม้ใหญ่ เลนจักรยาน ศิลปะดูฟรี และมีโคอาล่าให้อุ้ม
เราเช็คอินเข้าห้องพักที่ The Fantauzzo ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งที่ 8 ในเครือ Art Series Hotel เพิ่งเปิดใหม่ๆ ได้ไม่กี่เดือนเองค่ะ ดูเส้นสายด้านหน้าตัวตึกของโรงแรมแล้วก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาร์ตแค่ไหน และพอก้าวแรกที่เข้าไปยังล็อบบี้ ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความเป็นศิลปะ ความเท่ ความดิบ ในสไตล์แบบลักชัวรี่บูติกโฮเทล
โลเกชั่นใต้สะพาน The Story Bridge คือโลเกชั่นที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองบริสเบน เพราะด้านล่างเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ เป็นย่านชิลย่านหนึ่ง จากห้องนอนมองเห็นวิวแม่น้ำ เส้นสายดีไซน์ภายในโรงแรมมันสอดรับกับเส้นสายสถาปัตยกรรมของโครงสร้างสะพาน เรารู้สึกอย่างกับว่าที่นี่ออกแบบมาเพื่อกันและกัน
The Fantauzzo คือโรงแรมความสูงเพียง 6 ชั้น ที่ออกแบบมาในคอนเซ็ปต์ของความคิดสร้างสรรค์ มีความร่วมสมัยและความลักชัวรี่ผสมผสานกัน แรงบันดาลใจทั้งหมดมาจากศิลปินชาวออสเตรเลียที่ชื่อ Vincent Fantauzzo ซึ่งมีชื่อเสียงมากในเรื่องของงานพอร์เทรตและงานภาพถ่าย ในโรงแรมเราจึงเห็นผลงานของเขาคนนี้อยู่เต็มไปหมด
ความน่าสนใจก็คือ คุณวินเซนต์ ฟานทูซโซนี้ พ่อของเขาเป็นเชฟชาวอิตาเลียน เกิดที่โรม ส่วนแม่เกิดที่ไอร์แลนด์ แต่ทั้งครอบครัวพากันย้ายมาอยู่ออสเตรเลียตั้งแต่ช่วงปี 1950 และก็ต้องเผชิญกับความยากลำบากหลายสิ่งในช่วงที่วินเซนต์ยังเด็ก แต่ด้วยใจรักศิลปะ เขาฝึกฝนการวาดรูปและเข้าเรียนในโรงเรียนศิลปะ ก่อนจะมีผลงานรางวัลมากมาย
เขาเคยมีผลงานจัดแสดงในนิทรรศการมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก แต่การมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ เหมือนว่าได้รวบรวมงานชิ้นเด่นๆ ของเขา มาให้แขกได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ไหนมากมาย ตั้งแต่ล็อบบี้ ตามทางเดิน และแม้แต่ในห้องนอนของเราเอง เลยไปยันห้องน้ำ ก็มีงานศิลปะให้ชมแบบอิ่มๆ
ห้องพักทั้งหมด 166 ห้อง แต่ละห้องจะออกแบบไม่เหมือนกัน อย่างห้องที่เรานอนจะเป็นเตียง twin และทั้งสองเตียงก็ถูกกั้นด้วยตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำตรงกลาง ทำให้เราได้สเปซส่วนตัว แต่ก็ไม่เหงาเกินไป เพราะยังคงคุยกับเพื่อนร่วมห้องได้ ขณะที่สามารถทำอะไรส่วนตัวไปด้วยได้เลย
สิ่งที่เราชอบคือสระว่ายน้ำ rooftop pool and bar ซึ่งถ่ายรูปสวยมาก แล้วก็ร้านอาหารที่ชั้นล่าง Polpetta ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากถนนในกรุงโรม อิตาลี อาหารจึงเสิร์ฟแบบรสชาติอิตาเลียนแท้ๆ นอกจากเนื้อย่างกับสปาเก็ตตี้ที่เราอยากให้ทุกคนมาลองแล้ว ก็คงเป็น Tiramisu นี่แหละ ที่กินแล้วอารมณ์ดีสุดๆ ไปเลย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและจองห้องพักได้ที่ https://www.artserieshotels.com.au/fantauzzo/