พัทยาไม่ได้มีดีแค่ทะเล แต่ทริปสั้นๆ ที่ Somerset Pattaya ครั้งนี้จะพาทุกคนมาเห็นเสน่ห์อีกด้านของวัฒนธรรมท้องถิ่นแห่งเมืองชลบุรี นอกจากการสอดแทรกกลิ่นอายเอาไว้ในตกแต่งของโรงแรมแล้ว เราจะพาไปแวะชุมชนตะเคียนเตี้ยซึ่งเป็นสวนมะพร้าวผืนสุดท้ายของพัทยาด้วย
ทริปนี้เป็นทริปพักผ่อน ขับรถมาเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆ จากกรุงเทพฯ ก็ได้สัมผัสความสุขที่เรียบง่าย เหมาะจะมากับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนสายชิล ไม่เน้นปาร์ตี้ แต่เน้นธรรมชาติ และไลฟ์สไตล์ช้าๆ
Somerset Pattaya รีวิวห้องพักสุดหรูและสระว่ายน้ำวิวทะเล
ซัมเมอร์เซ็ต พัทยา (Somerset Pattaya) คือโรงแรม 5 ดาวในเครือ Ascott ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา ใกล้ห้างสรรพสินค้า Central Festival ได้ยินมาว่าที่นี่ห้องพักสวยและครบทุกสิ่งอำนวยความสะดวก เพราะแบรนด์ Ascott เขาเชี่ยวชาญการทำเรสซิเดนซ์มาก่อน ดังนั้นโรงแรมจึงเต็มไปด้วย facilities ที่ไม่ว่าจะพักสั้นๆ หรือพักระยะยาว ก็จะได้ความสบายอย่างเต็มที่ ทั้งหมด 324 ห้องพัก ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่เข้าพักแบบครอบครัวมาพร้อมเด็กๆ รวมไปถึงผู้ที่มาพร้อมสัตว์เลี้ยงก็เข้าพักได้
อากาศร้อนๆ แดดเปรี้ยง พอเดินเข้ามาในล็อบบี้โรงแรมก็หายเหนื่อย เพราะกว้างขวาง ตกแต่งหรูหรา แถมมองออกไปเห็นต้นไม้ใหญ่ด้านนอกสบายตา เขาเสิร์ฟเวลคัมดริงค์ในขวดแก้วสวย ก่อนมอบคีย์การ์ดห้องพักแบบ standard ขนาด 35 ตารางเมตร (ใหญ่เท่าคอนโดแบบ 1 ห้องนอนของเราในกรุงเทพฯ แต่ดูกว้างกว่าเพราะไม่กั้นห้อง)
การตกแต่งเป็นแบบโมเดิร์นแทรกกลิ่นอายไทยๆ และความเป็นชุมชน อย่างลวดลายของอ่างล้างหน้า ลายพื้นกระเบื้องในห้องน้ำ ลายของพรมและงานฝีมือตกแต่งบนผนัง มาพร้อมเตียงขนาดใหญ่ โซฟา และชุดครัวพร้อมจานชาม อุปกรณ์ชงชา กาแฟ ไปจนถึงตู้เย็น และเครื่องซักผ้า
แขกที่มาพร้อมสัตว์เลี้ยงสามารถเข้าพักที่แยกโซนไว้โดยเฉพาะ ซึ่งทางโรงแรมจะเตรียมอุปกรณ์ดูแลสัตว์เลี้ยงให้เป็นพิเศษ และนำสัตว์ไปวิ่งเล่นในพื้นที่สีเขียวที่จัดเตรียมไว้ให้ได้ ขณะที่ห้องพักแบบครอบครัวก็จะมีของเล่นให้เยอะมาก นอกจากนี้ยังมี kid’s club ที่มาพร้อมบ่อบอลหลากสี สไลเดอร์ กิจกรรมปีนผา ของเล่นเสริมพัฒนาการ หนังสือนิทาน และคลาสกิจกรรมให้เด็กๆ ได้มาแสดงความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถ้ายังไม่จุใจ บนชั้นดาดฟ้าก็เป็นสระว่ายน้ำธีมโจรสลัด เด็กๆ สามารถไปเล่นเครื่องเล่น ส่วนผู้ใหญ่ก็สามารถไปเอนจอยวิวแบบพาโนรามา เห็นพัทยาในมุมกว้าง หรือจะนอนอาบแดดพร้อมหนังสือเล่มโปรดก็ได้
ชั้นดาดฟ้าจะเปลี่ยนจากความสนุกสนานเป็นความโรแมนติกในช่วงค่ำ เพราะมีสกายเลานจ์ให้เพลิดเพลินไปกับเมนูอาหารไฟน์ไดนิ่ง และเครื่องดื่มหลากหลาย จิบไปชมพระจันทร์ไป แต่สำหรับใครที่ชอบอาหารทะเลเป็นพิเศษ เราแนะนำให้ไปห้องอาหาร ‘ซีทูเสิร์ฟ’ ที่ชั้น 2 ของโรงแรม เพราะมาพร้อมอาหารทะเลสดใหม่และเมนูฮิตระดับพรีเมียม ทั้งไทยและตะวันตกเขาทำรสชาติได้ดีเยี่ยม
หมู่บ้านตะเคียนเตี้ย วิถีชุมชน ใต้ร่มมะพร้าว
วันรุ่งขึ้น หลังจากทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ‘ซีทูเสิร์ฟ’ เรามุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านตะเคียนเตี้ย ซึ่งตั้งอยู่ที่อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อย่างที่เล่าไปแล้วว่าเป็นสวนมะพร้าวผืนสุดท้ายของพัทยา ทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) จึงยกให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษ สามารถพาเด็กๆ หรือแม้แต่ผู้สูงอายุมาชมเสน่ห์ของวัฒนธรรมชุมชนได้
แน่นอนว่าเราเลี้ยวรถเข้ามาก็เห็นต้นมะพร้าวเรียงรายเป็นอันดับแรก ก่อนที่คุณลุงคุณป้าออกมาต้อนรับ และพาเดินชมวิถีชีวิตชาวสวน โดยเล่าให้ฟังถึงขั้นตอนการเพาะพันธุ์ การปลูก การดูแลรักษา ไปจนถึงการนำมะพร้าวมาทำเป็นโปรดักต์ต่างๆ ทั้งของกินของใช้
เริ่มจากกาแฟมะพร้าวตะเคียนเตี้ย เขาใช้กาแฟสดมาบด และใช้หัวกะทิจากชุมชนมาใส่แทนครีมเทียม ทำให้ได้กาแฟรสชาติหวานมันและหอมกลิ่นมะพร้าว ทางสวนชงให้เราดูและชิมกันสดๆ ต่อด้วยน้ำมะพร้าวสกัดเย็นที่ใช้การสกัดแบบภูมิปัญญาท้องถิ่น แล้วก็ยังมีลิปมันมะพร้าว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากได้ดีมากๆ
ในชุมชนยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น การทำพวงมโหตร เครื่องแขวนที่ใช้ตกแต่งวัดและบ้านเรือนในเทศกาลหรืองานมงคล กิจกรรมงานฝีมือฝึกสมาธิ อย่างเช่น การทำผ้ามัดย้อม ฝึกพับดอกกุหลาบใบเตย ร้อยพวงมาลัย และสานปลาตะเพียนจากใบเตย และล่าสุด สวนแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ Disc golf แห่งใหม่ของเมืองชลบุรี และอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด
ใครมีเวลาว่างช่วงวีคเอนด์และมองหากิจกรรมที่สนุกได้ทั้งกลุ่มเพื่อนฝูงและครอบครัว การมาเที่ยวพัทยาและแวะชุมชนตะเคียนเตี้ยก็เป็นอีกหนึ่งความสุขที่เรียบง่ายโดยไม่ต้องเดินทางไกลจากกรุงเทพฯ เลย
Somerset Pattaya
จองทีพักได้ที่ FB: Somerset Pattaya หรือทางเว็บไซต์ https://www.discoverasr.com/
หมู่บ้านตะเคียนเตี้ย
สามารถนัดหมายเข้าชมหรือทำกิจกรรมได้ที่ 085-698-9732
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB: ชุมชนตะเคียนเตี้ย
