ออสเตรียคือเมืองแห่งดนตรีคลาสสิก และซาลส์บูร์ก (Salzburg) ก็เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญมากๆ เพราะเป็นเมืองบ้านเกิดของโมสาร์ท แถมยังเป็นเมืองที่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเกี่ยวกับดนตรีชื่อดังอย่าง The Sound of Music เชื่อว่าใครหลายคนที่แพลนจะมาเที่ยวเมืองนี้ ก็ต้องมีภาพของตัวเองได้เข้าไปอยู่ในสถานที่ต่างๆ ที่อบอวลไปด้วยดนตรีเหล่านั้น

Mirabell Gardens

โรงแรมที่พักที่เราอยากแนะนำ สำหรับการมาเที่ยวซาลส์บูร์ก คือ Sheraton Grand Salzburg โรงแรม 5 ดาวที่ไม่ได้ให้แค่ความหรูหรา และบริการที่ยอดเยี่ยม แต่สิ่งที่เลอเลิศมากคือ การที่มันอยู่ติดกับสวนมิราแบล (Mirabell Gardens) ซึ่งเป็นฉากที่มาเรียกับเด็กๆ พากันมาร้องเพลงโด เร มี ในเรื่อง The Sound of Music นั่นเอง สวนแห่งนี้เป็นพาร์คที่ชาวเมืองชอบมาพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ขี่จักรยาน จูงสุนัขมาเดินเล่น หรือปูผ้านั่งบนสนามหญ้าตรงมุมไหนสักแห่งในวันอากาศดี ในขณะที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาตามรอยฉากในหนัง แล้วก็แวะเข้าไปชมความงามของพระราชวังมิราแบล ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันอีกด้วย

เรามาถึงสถานีรถไฟสำคัญของเมืองซาลส์บูร์กอย่าง Salzburg Hauptbahnhof ตั้งแต่เช้า และก็ได้ทำการ early checkin ที่โรงแรม Sheraton Grand Salzburg เพื่อรีเฟรชตัวเองก่อนจะออกไปสำรวจเมือง พนักงานบริการยกกระเป๋าขึ้นมาให้ที่ห้องและทักทายต้อนรับอย่างสุภาพ โดยที่ภายในห้องก็ยังมีการ์ดเขียนเวลคัมเป็นชื่อเรา พร้อมขนมเล็กๆ น้อยๆ วางไว้บนโต๊ะ สมมาตรฐานพรีเมียมของแบรนด์เชอราตัน

ภายในห้องพักของ Sheraton Grand Salzburg ที่มองเห็นวิวสวน Mirabell ได้จากหน้าต่าง

Sheraton Grand Salzburg มีห้องพักทั้งหมด 168 ห้อง เน้นบรรยากาศสบายๆ ผ่อนคลาย แต่คงความคลาสสิกสไตล์ยุโรปในคอนเซ็ปต์ที่ผสมผสาน modern and timeless luxury แบ่งประเภทไปตั้งแต่ classic room, deluxe room ไปจนถึงประเภทห้องที่เป็น ETAGE7 Access คือเชื่อมต่อกับจุดชมวิวด้านบนของโรงแรมได้ จุดเด่นคือเรื่องของโลเกชั่นที่อยู่ใจกลางเมืองซาลส์บูร์ก ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Salzburg Hauptbahnhof แถมยังติดกับสวนมิราแบล แล้วก็สามารถเดินไปยังเมืองเก่าซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมายได้เพียงแค่ 10 นาที ไม่ว่าจะเป็นบ้านโมสาร์ท แม่น้ำซาลซัค หรือถนนช็อปปิ้ง Getreidegasse อีกทั้งบนชั้นรูฟท็อปของโรงแรมยังสามารถมองเห็นวิวเมืองได้ไปถึงป้อม Hohensalzburg อีกด้วย

สถานีรถไฟหลัก Salzburg Hbf ที่อยู่ใกล้โรงแรมเพียงไม่กี่นาที

เราโชคดีมากที่ได้ห้องพักฝั่งสวน จึงมองเห็นวิวของสวนมิราแบลได้จากหน้าต่าง ยิ่งมาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิแบบนี้แล้ว จะสามารถเห็นดอกไม้กำลังเบ่งบานสะพรั่ง และผู้คนที่มาเดินออกกำลังกาย มีชีวิตชีวามากๆ แค่วิวนี้ก็สามารถนั่งมองได้ทั้งวันแล้ว โดยที่ภายในห้องเองก็เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทีวีจอแบน มุมกาแฟและชา โซฟา และเตียงคิงไซส์ลวดลายแมตช์กัน นอนนุ่มสบายที่สุด

ช็อกโกแลตโมสาร์ท ที่เคาน์เตอร์บาร์ในห้องพัก

เราชอบโปรดักต์ในห้องน้ำที่เน้นกลิ่นธรรมชาติ ผ่อนคลายมากๆ แต่ถ้าใครอยากทำสปา ทางโรงแรมก็มีบริการแต่จะต้องจองล่วงหน้า หรือถ้าหากอยากไปใช้ฟิตเนส ก็มีอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ครบครัน พร้อมห้อง steam bath และซาวน่าให้สำหรับคนที่อยากรีแล็กซ์

ห้องน้ำกว้างขวาง มาพร้อมอ่างอาบน้ำ

ในโรงแรมมีร้านอาหารอยู่ 2 ร้าน ได้แก่ ร้านอาหารอิตาเลียน และ ร้าน Mirabell & Terrace ที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นและยังใช้เป็นสถานที่จัดอีเวนต์พิเศษ

Piano Bar เหมาะกับการนั่งฟังดนตรีสดพร้อมจิบกาแฟหรือค็อกเทลในช่วงบ่าย

แต่ที่ที่เราชอบมากๆ คือส่วนของเปียโนบาร์ (Piano Bar) เพราะเป็นห้องกระจกติดฝั่งสวนมิราแบล มองออกไปเห็นวิวสวน คลอเคล้าไปกับการบรรเลงเปียโนให้ฟังสดๆ โดยเขาได้ให้ voucher สำหรับทานกาแฟฟรีในทุกบ่ายของการเข้าพักของเราด้วย หรือใครจะเลือกสั่งขนมเค้ก หรือของขบเคี้ยว มาทานด้วยก็ได้

เสน่ห์ของฤดูใบไม้ผลิในซาลส์บูร์ก คือ ดอกไม้ ดนตรี กาแฟสักแก้ว และสถานที่สวยๆ อย่าง Sheraton Grand Salzburg ให้เราได้ผ่อนคลาย คือความสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว

โซนที่นั่งด้านนอกของร้านอาหาร Mirabell & Terrace เชื่อมกับสวนมิราแบล

จองห้องพัก Sheraton Grand Salzburg หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.marriott.com/en-us/hotels/szgsi-sheraton-grand-salzburg/overview/

1 COMMENT

Leave a Reply