อากาศราวๆ 19-20 องศาในช่วงเริ่มต้นหน้าหนาวทำให้พะเยาดูมีเสน่ห์แบบกำลังดี
ต้นไม้ ลำธาร ม้า สุนัข แมว กาแฟ คราฟต์เบียร์ จักรยาน และเปียโนในบ้านหลังใหญ่ท่ามกลางวิวภูเขา คือส่วนประกอบที่อยู่ร่วมกันอย่างลงตัวที่ “ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์” (MonSamKien Farmstay) บ้านพักไม่ไกลจากตัวเมืองพะเยาซึ่งเราเพิ่งได้มาเยือน
เราค้นหาที่นี่เจอจากเว็บไซต์ Airbnb.com และตัดสินใจไม่ยากเลยในการเลือกมาพัก ด้วยรูปถ่ายของบ้านทรงสวยแปลกตา เป็นเอกลักษณ์ และเจ้าของบ้านที่ได้คะแนนรีวิวสูงระดับ Super host
พี่แบ๊ทเจ้าของที่พักแห่งนี้เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยพะเยา มีดีกรีถึงระดับปริญญาเอกด้านวิศวกรรมศาสตร์จากฝรั่งเศส เขาคือผู้ริเริ่มไอเดียของการสร้างที่พักที่ให้คนได้แนบชิดกับธรรมชาติมากที่สุด โดยชวนเพื่อนสนิทที่เป็นสถาปนิกมาร่วมกันออกแบบ ผลลัพธ์คือบ้านพักทรงเรขาคณิตที่สร้างจากวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น อย่างดิน ปูน และไม้เก่า มีเหลี่ยมมุมและการเล่นระดับที่ดูร่วมสมัย หยอกล้อไปกับต้นไม้น้อยใหญ่รอบข้าง อย่างกับเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
ที่ตั้งในซอย 3 บ้านห้วยเคียน บวกกับคำว่าม่อน (ภาษาเหนือแปลว่าดอยเล็กๆ) กลายเป็นที่มาของชื่อ “ม่อนสามเคียน” ส่วนจะต่อท้ายว่าเป็นโฮมสเตย์หรือฟาร์มสเตย์ก็แล้วแต่แขกที่เข้ามาพัก ว่าจะสัมผัสได้ในแง่ของความอบอุ่นและการดูแลอย่างดีของเจ้าของบ้าน ประหนึ่งการไปพักบ้านเพื่อน หรือจะสัมผัสได้ในแง่ของความสนุกของกิจกรรมแบบฟาร์มๆ ที่มีให้ทำไม่รู้เบื่อ ตั้งแต่การขี่ม้า ก่อไฟแคมปิ้ง ขี่จักรยาน พายเรือ ไปจนถึงวิ่งเล่นกับสุนัขตัวใหญ่ๆ 3-4 ตัว
เมื่อก่อนแถวนี้เป็นไร่ข้าวโพด และหลังจากที่มีการเข้ามาทำร้านกาแฟชื่อ Mr.Handsome จนได้รับความนิยม พี่แบ๊ทก็ตัดสินใจเข้ามาสร้าง “ม่อนสามเคียน” ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน โดยนำต้นไม้เข้ามาปลูกเพิ่มมากมายเพื่อให้ดูร่มรื่น สร้างบรรยากาศความเป็นธรรมชาติให้กับห้องพักทั้งหมด 4 ห้อง รวมทั้งบ้านหลังใหญ่อีก 1 หลังที่นอนกันได้ถึง 6-7 คน
- ดูสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพะเยาได้ที่ > เชียงราย-พะเยา เส้นทางสายหมอกกับร่องรอยของอดีต
ห้องพักออกจะเรียบง่ายสักหน่อย มีกลิ่นไม้เบาๆ แต่นั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้เราได้กลับไปใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบโยนความเรื่องมากสไตล์คนเมืองทิ้งไปซะ
ไม่ต้องตกใจที่มีต้นไม้โผล่ขึ้นมากลางห้อง และไม่ต้องตกใจที่มีหน้าต่างให้มองวิวสวยๆ ไปด้วยในขณะกำลังอาบน้ำ
ไม่มีทีวี ไม่มีช่องเสียบ USB ให้ต่อไอพอดฟังเพลง แต่ก็ยังดีที่มี wifi อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อไม่ให้เราเหงาเกินไปนัก
พื้นที่ส่วนกลางหน้าห้องพักมีตู้เย็นแช่น้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบและน้ำอัดลมให้เราสามารถหยิบดื่มได้ฟรีแบบไม่หวง มีมุมชงกาแฟ และที่นั่งพร้อมปลั๊กไฟใกล้ๆ เผื่อใครเอาโน๊ตบุ๊กออกมานั่งทำงาน หรือแม้แต่จะสั่งอาหาร-เครื่องดื่มจากร้าน Mr.Handsome มานั่งทานตรงนี้ก็ได้เช่นกัน
เมนูอาหารของ Mr.Handsome มีตั้งแต่ข้าวกะเพราไปยันสปาเก็ตตี้ ต่อด้วยของหวาน เค้ก ทาร์ต และไอศกรีม ส่วนใครจะสั่งเครื่องดื่มพวกชา กาแฟ เครื่องดื่มโซดาต่างๆ น้ำผลไม้ หรือจัดเป็นคราฟต์เบียร์มาเลย เขาก็มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ไม่น่ามีอะไรชิลไปกว่านี้อีกแล้ว
ส่วนอาหารเช้า พี่แบ๊ทเจ้าของบ้านจะเป็นคนเตรียมให้ เช่น โจ๊ก-ข้าวต้มใส่ไข่ลวก ต่อด้วยขนมบ้านๆ ที่เขาออกไปซื้อมาจากตลาดใกล้ๆ หรือถ้าใครชอบอาหารเหนือ ก็สามารถรีเควสให้พี่เขาทำให้ได้เหมือนกัน
ในระหว่างรอนั้น เราเดินไปเล่นเปียโนที่ตั้งอยู่กลางบ้าน โดยมีลาบราดอร์ชื่อม่อนโล่เดินมานั่งฟังด้วยอีกตัว
ช่วงหัวค่ำอาจจะมียุงและแมลงบ้าง แต่ประมาณหลังสองทุ่มก็ไม่มีแล้ว เราสามารถก่อกองไฟนั่งคุยกันในพื้นที่แคมปิ้งได้ ซึ่งมีกระโจมตั้งอยู่ 3 อัน ด้านในเป็นเต็นท์สำหรับคนที่อยากนอนพักอยู่กับธรรมชาติจริงๆ คืนละ 450 บาท / คน
เช้าวันสุดท้ายของการเข้าพักที่นี่ พี่แบ๊ทตื่นมาพาเราฝึกขี่ม้า ที่นี่มีม้า 3 ตัว ตัวที่เราได้ขี่ชื่อฟีนิกซ์ ถ้าใครขี่เป็นแล้วสามารถพาไปเดินรอบๆ ที่พัก หรือออกไปป่ายางข้างนอกได้ แต่สำหรับเรา คือฝึกนั่งตัวตรงและขาไม่สั่นให้ได้ก่อน
ฟีนิกซ์ชอบกินน้ำตาลก้อน ตอนลงจากม้า เอาน้ำตาลไปยื่นให้เขากินเป็นการขอบคุณซะหน่อย ก่อนจะหันมาเจอหมา ม่อนโล่กับม่อนลี่ นั่งมองตาปริบๆ รอว่าจะแบ่งมันไหม
เราคิดว่าการได้กลับมาอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้วชีวิตไม่ได้ต้องการสิ่งปรุงแต่งเยอะ “ความเรียบง่ายและไม่ซับซ้อน” ต่างหาก ที่ทำให้เรามีความสุข
Mon Sam Kien Farmstay
Phayao, Thailand
For reservation:
