เมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมา เราใช้โอกาสดีๆ กับอากาศที่เริ่มเย็นขึ้นเล็กน้อยของกรุงเทพฯ ไป staycation ที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok โรงแรมแห่งใหม่ในย่านหลังสวน กรุงเทพฯ ที่เพิ่งจะเปิดให้เข้าพักอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2020 นี้เอง ความพิเศษคือที่นี่เป็น pet-friendly hotel เราจึงแพ็กกระเป๋าแล้วก็พาน้องเหมียวที่บ้านย้ายที่นอนสักคืนสองคืนไปด้วยกัน
ถึงแม้ว่าการเดินทางต่างประเทศในปี 2020 จะยังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จนทำให้ใครหลายคนเหี่ยวเฉา แต่การเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นนักท่องเที่ยวในเมืองของตัวเองดูบ้างนั้น ก็ไม่ใช่ไอเดียที่แย่เลยนะคะ กลับทำให้เราได้มุมมองใหม่ๆ แถมไม่ต้องเดินทางไกลด้วย โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวที่ผู้คนนิยมเดินทางออกต่างจังหวัด เราบอกเลยว่าจังหวะนี้แหละ ทำให้ย่านกลางเมืองของกรุงเทพฯ ดูเหมือนโตเกียวหรือโซลในบางทีเหมือนกัน
คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ นับว่าเป็นการเปิดตัวแบรนด์ Kimpton แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายใต้เครือ IHG เลยค่ะ โดยตั้งอยู่ที่ย่านหลังสวน ติดกับสวนลุมพินี เราจึงได้เห็นวิวพื้นที่สีเขียวไปเต็มๆ แถมยังเป็นช่วงถนนที่ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย แต่ก็ใกล้กับร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าต่างๆ อยู่ในระยะแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น
ครั้งแรกที่เห็นชื่อ ‘มาลัย’ ต่อท้ายชื่อโรงแรม เรารู้สึกถึงฟีลลิ่งของความเป็นไทยซึ่งสร้างเอกลักษณ์ให้ Kimpton สาขานี้อย่างมาก เรานึกถึงเวลาเดินทางไปรีสอร์ทหรูๆ ในต่างจังหวัด มาลัยมักจะถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับแบบอบอุ่นแก่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติอยู่เสมอ แถมความหมายในตัวของมาลัยเองก็ยังสื่อถึงการแสดงความเคารพอีกด้วย
นี่เป็นครั้งแรกที่เราพาแมวออกมาค้างนอกบ้านเลยค่ะ เพราะปกติแล้วแมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัว ติดสถานที่เดิมๆ ที่อยู่ประจำ ติดเจ้าของ มักจะชอบเดินสำรวจด้วยตัวเองเฉพาะในบริเวณไม่ไกลจากรั้วบ้านเท่านั้น โดยเฉพาะเกรมลิน แมวส้มหน้าบึ้งของเราตัวนี้ เป็นแมวที่ขี้กลัวมากๆ ปกติคนแปลกหน้ามาบ้านก็จะวิ่งหนีมุดไปแอบอยู่ใต้ตู้ตลอด ดังนั้นการพาเขาออกมาเที่ยวครั้งนี้ จึงเหมือนเป็นการช่วยฝึกให้เขารู้จักปรับตัวกับสังคมมนุษย์ได้ดีขึ้น ลดอาการเครียดและวิตกกังวลกับความไม่คุ้นเคยลงบ้าง
การพาแมวเที่ยวเราต้องมีการเตรียมตัวพอสมควรค่ะ ก่อนอื่นเลยในขั้นตอนการจอง นอกจากจะบุ๊กกิ้งห้องพักด้วยชื่อแขกผู้เข้าพักแล้ว เรายังต้องแจ้งขนาดและส่งรูปของสัตว์เลี้ยงไปให้ทางโรงแรม เพื่อที่เขาจะได้แนะนำและจัดเตรียมห้องพักที่เหมาะสมและอำนวยความสะดวกให้เรา โดยทางคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ ต้อนรับสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กแทบทุกชนิดที่สามารถพาเข้าลิฟต์ได้ และโซนห้องพักก็จะแยกชั้นจากโซนลูกค้าที่ไม่ได้มีสัตว์เลี้ยง แถมยังแยกชั้นของหมา และชั้นของแมวโดยเฉพาะ
โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ ออกแบบมาในแบบร่วมสมัย โทนสุขุม และเน้นย้ำความเป็นศิลปะ-ดีไซน์สุดๆ โดยได้ P49 Deesign มาดูแลในเรื่องอินทีเรียร์ดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ความเป็นไทยบวกกับความทันสมัยของเมืองหลวง เสริมด้วยความโดดเด่นของผนังที่มาพร้อมเท็กซ์เจอร์ที่น่าสนใจ ไม่มีผนังไหนที่เรียบเลย แต่ละส่วนจะมีความลื่นไหล เชื่อมโยงกับธรรมชาติ บ้างก็เป็นลวดลายเหมือนผืนดินแตกระแหง และบ้างก็ทำขึ้นจากแผ่นไม้ ประกอบเรียงกันอย่างประณีต ผลงานของศิลปินอย่าง Artslonga
ดูผลงานอื่นๆ ของ Artslonga เพิ่มเติม
ขณะเดียวกันก็ยังประดับประดาด้วยอาร์ตพีซอีกหลายชิ้นทั่วโรงแรม โดยมีชิ้นใหญ่ที่โดดเด่นอยู่ตรงล็อบบี้ ด้านหน้าลิฟต์ และในร้านอาหาร CRAFT เป็นผลงานของคุณโด่ง พงษธัช อ่วยกลาง (Dong Sculpture)
ดูผลงานอื่นๆ ของ Dong Sculpture เพิ่มเติม
ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 362 ห้อง รวมไปถึงเซอร์วิสเรสซิเดนซ์อีก 131 ห้อง และเราได้มาพักที่ห้อง Grand Premium Room ชั้น 7 ซึ่งเป็นชั้นของน้องแมวโดยเฉพาะ
ห้องใหญ่มากๆ ค่ะ มีเตียงคิงไซส์ที่สามารถควบคุมสวิตช์ไฟและผ้าม่านได้จากหัวเตียง มีพื้นที่ของโต๊ะทำงานแยกเป็นสัดส่วน และที่เราชอบก็คือห้องน้ำใหญ่มาก มีอ่างอาบน้ำ แล้วก็ห้องแต่งตัว ให้เราใช้เวลาปรนเปรอตัวเองแบบไม่จบไม่สิ้นไปเลย
ความน่ารักก็คือมีคอนโดแมวให้น้องได้ปีนป่าย รวมไปถึงชามข้าว ชามน้ำดื่มของสัตว์เลี้ยง แล้วก็กระบะทรายแมว เตรียมมาให้เสร็จสรรพ เราแทบไม่ต้องขนอะไรมาเลยค่ะ แค่เสื้อผ้าสวยๆ ของน้องแมวก็พอ แต่ที่เกรมลินชอบมากๆ ก็คือผนังกระจกสูงจากพื้นจรดเพดานซึ่งทำให้เขามองเห็นวิวเมืองจากมุมสูงได้แบบเต็มอิ่ม แน่นอนว่าน้องแมวกับการดูวิวนอกหน้าต่างมันเป็นของคู่กันอยู่แล้ว เกรมลินนั่งดูรถด้านล่างวิ่งไปวิ่งมาจนเพลินเขาเลยล่ะ
สำหรับร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ ที่นี่ก็มีให้เลือกถึง 4 ห้องอาหารด้วยกัน ได้แก่ CRAFT ซึ่งโดดเด่นเรื่องกาแฟมากๆ มีให้เลือกดื่มทั้งกาแฟซิงเกิลออริจินและกาแฟเบลนด์ โดยมีเมล็ดกาแฟไทยและนำเข้าจากต่างประเทศคัดสรรมาอย่างดี
ข้างๆ กันคือ Ms.Jigger เป็นร้านอาหารอิตาเลียน ในคอนเซ็ปต์ของหญิงสาวนักเดินทาง ซึ่งก็ให้แรงบันดาลใจไปถึงการสร้างสรรค์ค็อกเทลหลากหลายชนิดด้วย
Stock.Room เป็นร้านอาหารที่ชั้น 5 ที่ตกแต่งได้ดิบเท่มากๆ ในคอนเซ็ปต์ grocerant ประดับภาพถ่ายขาวดำสวยๆ เต็มไปหมด มาพร้อมครัวป็อปอัพที่หลากหลาย
เราเองก็ทานอาหารเช้าที่นั่น ลองทั้งโจ๊กไก่ ติ่มซำ สมูทตี้ผลไม้ Egg benedict และแพนเค้ก อร่อยมากกกกกก อร่อยทุกอย่างจริงๆ
นอกจากนี้ก็ยังมีร้าน Bar.Yard ที่ชั้นรูฟท็อป เสิร์ฟบาร์บีคิว farm-to-plate และเครื่องดื่มแนวทรอปิคัล เหมาะแก่การมานั่งชิลรับบรรยากาศในช่วงค่ำ
อ่านเพิ่มเติม
- มื้อบรันช์ร้าน Stock.Room โรงแรม Kimpton Maa-Lai กับครัวป็อปอัพ 6 สเตชั่นที่มีเชฟมาปรุงอาหารตามใจเรา
หลังจากเราทานอาหารเช้าของตัวเองเสร็จจากร้าน Stock.Room แล้ว เราก็พาน้องแมวมารับอาหารเช้าที่ร้าน CRAFT ซึ่งเป็นร้านอาหารเดียวของโรงแรมที่ให้พาสัตว์เลี้ยงเข้าได้ สำหรับเมนูอาหารแมว เขามีให้เลือกเป็นข้าวคลุกทูน่าหรืออาหารเปียกของรอยัลคานินราดซอสเกรวี่ หอมน่าทานจนเราอยากแย่งแมวกินเลย ฮ่าๆ
เราสามารถเลือกที่นั่งด้านใน หรือบริเวณสวนที่มีสระบัว อากาศเย็นๆ แบบนี้เหมือนมานั่งอยู่เมืองนอกเลย มีหมาแมวน่ารักๆ เต็มไปหมด ทานเสร็จแล้วพาน้องไปเดินเล่นที่สนามหญ้าด้วยนะ เขาจะแฮปปี้มากๆ ค่ะ
ในส่วนของการผ่อนคลายสำหรับเจ้าของแมว ต้องบอกว่าทางคิมป์ตันก็ใส่ใจเป็นอย่างดี ขนาดที่ว่ามีฟิตเนสที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แล้วก็มีสปาทรีตเมนต์ amaranth spa by HARNN ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์ของ HARNN และผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์ฝรั่งเศส แถมยังมีโปรแกรมการดูแลเล็บที่จริงจังมากๆ ต่อด้วยสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่มองเห็นวิวสีเขียวของสวนสาธารณะห้อมล้อม นับว่าเป็นการมาเปลี่ยนบรรยากาศที่ทำให้วันพักผ่อนของเรากลายเป็นทริปที่น่าจดจำได้โดยไม่ต้องเดินทางไกลไปไหนเลย
สรุปได้ว่า Kimpton Maa-Lai Bangkok เป็นโรงแรมที่เราให้ 10/10 ในเรื่องของการเป็น pet-friendly hotel เพราะนอกจากห้องพักที่กว้างขวางและสะดวกสบายตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว รวมไปถึงอาหารอร่อยๆ แล้ว การได้เห็นสัตว์เลี้ยงของเรามีความสุขจากการบริการที่เต็มที่ของทางโรงแรม ก็ยิ่งทำให้คนรักสัตว์อย่างเรามีความสุขตามไปด้วยจริงไหมคะ
จองห้องพักและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kimptonmaalaibangkok.com/th/
