ไม่น่าเชื่อว่าเพียง 10 นาทีจากหาดเฉวง เกาะสมุย ด้านบนเขาจะมีที่พักสงบเงียบสไตล์อีโคชิค โอบล้อมไปด้วยสีเขียวของธรรมชาติและวิวทะเลอันดามันเบื้องหน้าแบบกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ทางเข้าเล็กๆ ด้านหน้ามีป้ายชื่อว่า Kapuhala Koh Samui
Kapuhala (คาปูฮาล่า) คือรีสอร์ทแบบบูติกเวลเนสที่เกิดขึ้นจากความรักและใส่ใจในสุขภาพของผู้ก่อตั้งชาวอิตาเลียน เขาทำที่พักชื่อเดียวกันนี้ที่เกาะสมุยและเมืองซิซิลีทางตอนใต้สุดของอิตาลี (Kapuhala Sicily) แล้วยังเป็นเจ้าของฟิตเนสในฮ่องกง คอนเซ็ปต์ของรีสอร์ทแห่งนี้จึงไม่ใช่แค่การมาพักค้างคืน แต่เป็นเหมือนไลฟ์สไตล์สำหรับคนรักสุขภาพ หรือแม้แต่คนเมืองที่อยากหลีกหนีจากความวุ่นวาย มาหาเวลาส่วนตัว ได้อยู่กับตัวเองและพูดคุยกับธรรมชาติ
การเดินทางจากสนามบินสมุยหรือท่าเรือดอนสัก
Kapuhala Koh Samui อยู่บนเนินเขาในย่านเฉวงน้อย ไม่ไกลจากหาดเฉวง การเดินทางมาที่นี่ต้องใช้รถรับส่งแบบไพรเวทเท่านั้น เนื่องจากไม่มีรถสาธารณะผ่าน หรือจะเช่ารถขับมาเองก็ได้ แต่เนินชันๆ ก็ขับไม่ง่ายเหมือนกัน ต้องอาศัยฝีมือการขับพอสมควร
สำหรับเรา ใช้วิธีนั่งรถตู้มาจากท่าเรือดอนสัก ลงที่โรงเรียนนานาชาติ PBISS และทางรีสอร์ทมีบริการรถรับส่งจากที่นั่นขึ้นเขาไปยังรีสอร์ทได้ เป็นบริการ shuttle service ที่ทางคาปูฮาล่าดูแลให้กับผู้ที่มาทานอาหารที่ร้านของรีสอร์ทด้วย แต่สำหรับคนที่บินมาลงสนามบินเกาะสมุยเลย ก็จะง่ายกว่า เพราะสามารถเรียกแท็กซี่หรือรถรับส่งของทางรีสอร์ทมาเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น
ประสบการณ์เข้าพักใน Tented Villa ที่ Kapuhala
กว่าจะมาถึง Kapuhala วันนั้นก็เกือบสองทุ่ม ถือเป็น long day ที่เราไปแอดเวนเจอร์มาหลายที่ พอมาถึงก็แทบหมดแรง ซึ่งทางรีสอร์ทก็น่ารักมากเพราะแม้จะมาไม่ทันเวลาให้บริการของร้านอาหารในรีสอร์ท แต่ทางเชฟก็เสนอจะทำแซนด์วิชไว้ให้
ถือว่าเป็นหนึ่งในบริการที่ทาง Kapuhala ใส่ใจ เพราะไม่ว่าจะมาพักรีสอร์ทหรือมาร้านอาหารเฉยๆ ทุกอย่างต้องจองล่วงหน้าและระบุเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้รีสอร์ทสามารถจัดการเรื่องของปริมาณอาหารที่ต้องเตรียม เน้นความสดใหม่วันต่อวัน รวมไปถึงการจัดการ food waste เป็นการลดปริมาณของเหลือทิ้งในแต่ละวัน ตอบโจทย์ในเรื่องของความยั่งยืนซึ่งกลายเป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ในโลกทุกวันนี้
เราเข้าพักแบบ Tented Villa ซึ่งเป็นลักษณะเหมือนแกลมปิ้งหรือการตั้งแคมป์แบบหรูหรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องครบครัน แต่ก็ได้ฟีลลิ่งแอดเวนเจอร์หน่อยๆ สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
ที่พักทั้งหมดของ Kapuhala มีอยู่ 9 ห้องเท่านั้น แบ่งเป็น Tented Villa 5 หลัง และห้องพักธรรมดาที่เรียกว่า Seaview Farmhouse อีก 4 ห้อง แต่ละห้องจะอยู่แยกห่างกันไปในเลเวลที่ลดหลั่นไปตามเนินเขา จึงมองไม่เห็นกัน ให้ความเป็นส่วนตัว ความสงบ คือมีแค่เราและคนที่เราเลือกมาใช้เวลาด้วย
คืนแรกที่นั่น… ฉันแค่เก็บกระเป๋า อาบน้ำ แล้วก็ล้มตัวลงนอนแบบยังไม่มีแรงสำรวจอะไรทั้งสิ้น และเป็นคืนที่หลับสนิทสุดๆ
ห้องพักที่ไม่มีกำแพงกั้นระหว่างเราและภูเขากับทะเล
เต็นท์วิลล่าของ Kapuhala แต่ละหลังจะมีระเบียงส่วนตัว เดินได้รอบ และฝั่งหนึ่งจะติดภูเขา ส่วนอีกฝั่งหันออกทะเลอันดามัน ให้เราเห็นวิวพาโนรามาแบบไม่มีอะไรมากั้น เรียกได้ว่าเป็นวิวหลักล้านจริงๆ แถมลมที่พัดมา เป็นลมที่ไม่เหนียวเหมือนลมทะเลเวลาที่เราเดินชายหาด เพราะเป็นจุดที่อยู่สูงบนเนินเขา มองเห็นเกาะแก่งอื่นๆ ด้วย สมกับเป็นจุดขายของห้อง type นี้ เพราะได้วิวที่ผ่อนคลายแบบสุดๆ
กิจกรรมที่ดีที่สุดสำหรับเต็นท์วิลล่าแห่งนี้ก็คือ การนั่งอยู่ที่ระเบียงแล้วเอนจอยช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวัน ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น การเฝ้ามองพระอาทิตย์ขึ้นและตกจากมุมนี้คือโมเมนต์ที่สวยเหมือนฝัน
ภายในเต็นท์ มีเตียงแบบคิงไซส์ซึ่งมีมุ้งที่สามารถพับเก็บได้ ส่วนมากแขกจะมาพักหลังละ 2 คน แต่ก็รองรับมากสุดได้ถึง 4 คน เหนือเตียงมีแอร์ แนะนำให้ตอนนอนควรจะปิดมุ้งให้มิดชิด เพื่อให้แอร์ทำความเย็นได้แบบไม่หนักเกินไป เพราะห้องมีขนาดใหญ่ ส่วนช่วงกลางวัน ถ้าใช้เวลาในห้องบ้าง ก็แนะนำให้เปิดเต็นท์โล่งเพื่อรับลมธรรมชาติ ตามคอนเซ็ปต์ Live without walls และเปิดพัดลมเพดานช่วยระบายอากาศ นี่คือความพิเศษที่ห้องพักแบบปกติให้ไม่ได้
ในห้องยังมีโต๊ะทำงาน มีตู้เย็นและมุมมินิบาร์ ชงชากาแฟ ใกล้ๆ กันมีตู้เซฟสำหรับให้แขกเก็บของมีค่า กลางห้องมีโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ ที่สามารถใช้เป็นโต๊ะประชุมได้ด้วย เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดทำจากไม้ ทุกอย่างคุมโทนในสีเบจ มองแล้วสบายตา ความน่ารักคือเขาซ่อนปลั๊กไฟไว้ตามเสาไม้ไผ่เพื่อไม่ให้สังเกตได้ชัดเกินไปจนแปลกปลอม
ตอนแรกเราหาห้องน้ำไม่เจอ เพราะรายละเอียดการตกแต่งต่างๆ มันมีความกลมกลืนและแนบเนียนอย่างที่บอก แต่ที่จริงมันอยู่ถัดไปทางด้านหลังโซนเตียงนอนนี่เอง และมันมีขนาดใหญ่มาก เพราะมีที่เก็บเสื้อผ้าอยู่ในนั้นเลย มีกระจกเต็มตัว แยกโซนเปียกกับโซนแห้ง ซึ่งตรงที่อาบน้ำก็เป็นเรนชาวเวอร์ ได้ฟีลเหมือนอาบน้ำท่ามกลางสายฝน
Halapua restaurant ดูแลสุขภาพด้วยอาหาร Plant-based 100%
นี่คือร้านอาหาร plant-based 100% แห่งแรกของเกาะสมุย ที่มีการผสมผสานระหว่างรสชาติของเอเชียและอิตาเลียน ด้วยวัตถุดิบสดใหม่จากในท้องถิ่นแต่เป็นสูตรอาหารแบบซิซิเลียนแท้ๆ ท่ามกลางบรรยากาศการตกแต่งร้านที่สวยและ unique ไม่เหมือนใคร
อาหารของที่นี่เหมือนเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของเกาะสองเกาะ นั่นคือ เกาะสมุย และเกาะซิซิลีทางตอนใต้ของอิตาลี
เมนูจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามฤดูกาล ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักการของการทำอาหารอย่างยั่งยืน แต่ที่สำคัญคือเป็นอาหาร plant-based ทั้งหมด รวมถึง keto ด้วย
สายสุขภาพจะต้องรู้จักอาหารประเภทนี้อยู่แล้ว Plant-based diet ก็คืออาหารที่มาจากพืชอย่างน้อย 95% เช่น พืชตระกูลถั่ว เห็ด ผัก ผลไม้ และธัญพืชต่างๆ รวมถึงอาจมีส่วนผสมของนมและไข่อยู่บ้าง จึงได้โปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไขมันต่ำ แถมยังมีไฟเบอร์สูง ปราศจากคอเลสเตอรอล ถือเป็นทางเลือกใหม่ของคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือต้องการลดเนื้อสัตว์
อาหาร Plant-based อาจจะมีเนื้อสัตว์ปนอยู่บ้าง แต่ในปริมาณเล็กน้อยมากๆ หรือไม่มีเลย ซึ่งต่างกับวีแกนที่จะเข้มงวดมากกว่า เพราะงดเนื้อสัตว์ไปเลย ข้อดีคือทำให้เราไม่ต้องเสี่ยงกับสารเคมีอย่างเช่นการฉีดฮอร์โมนในสัตว์ โดยที่บางเมนูเขาก็ใช้พืชมาทำเป็นเนื้อสัตว์เทียม ปรุงแต่งให้ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริง ทั้งรูปลักษณ์ รสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัส เช่น เนื้อหมูจากพืช เนื้อวัวจากพืช อาหารทะเลจากพืช หรือแม้แต่เครื่องปรุงรสจากพืช ตอบโจทย์คนที่รักษ์โลก รักษ์สุขภาพ อยากลดเนื้อสัตว์ แต่ก็ไม่ทำให้ vacation น่าเบื่อเกินไป ยังมีความอร่อยและคุณประโยชน์เต็มเปี่ยม จึงไม่แปลกที่ plant-based diet กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง ในกลุ่มคนที่รักการดูแลตัวเอง
หลังจากทานอาหาร plant-based ตั้งแต่มื้อเช้า กลางวัน เย็น มาได้ 2 วัน ก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าตัวเบา ไม่หนักท้อง ดังนั้นสำหรับแขกที่มาพักระยะยาวแบบ 1 สัปดาห์ขึ้นไป จะเห็นผลทางสุขภาพและรูปร่างได้ชัดเจนกว่านี้แน่นอน และที่เราเซอร์ไพรซ์มากก็คือ plant-based สามารถทำได้หลากหลายเมนูกว่าที่คิด ซึ่งทุกเมนูของที่นี่ หน้าตาดี บางจานเขาตกแต่งมาน่ารักมากจนเราแทบไม่กล้าทานเลยทีเดียว
เมนูน่าสนใจ
เช่น Sicilian Coponata จานออร์เดิร์ฟเสิร์ฟอุ่นๆ ที่มีส่วนผสมของมะเขือม่วง หัวหอม ขึ้นฉ่ายฝรั่ง ซอสมะเขือเทศ น้ำส้มสายชูไวน์ขาว และน้ำตาลทรายแดง, Italian Bruschetta ขนมปังอิตาเลียนท็อปด้วยมะเขือเทศสด ใส่ออริกาโน น้ำมันมะกอกและกระเทียม ส่วนเมนคอร์ส เราแนะนำ Pasta Ragu Bolognese พาสต้าซอสเนื้อวีแกน, Mushroom Garden อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ของเห็ดและมันฝรั่ง, Kapuhala Parmigiana มะเขือม่วงอบทานกับชีสที่ทำจากพืช
ร้าน Halapua restaurant เปิดบริการทั้งแขกภายในรีสอร์ทและแขกที่ไม่ได้พักที่นี่ มีบริการรถรับส่งจากด้านล่างก่อนขึ้นเขา และแขกภายนอกที่มาทานอาหารที่นี่ สามารถใช้บริการสระว่ายน้ำได้ฟรีถึง 15.00 น. อีกด้วย
เปิดบริการวันอังคารถึงวันอาทิตย์ มื้อกลางวันและมื้อเย็นช่วง 11.30-19.00น. สำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น samui@kapuhala.com หรือ +66953086978
กิจกรรมเพื่อสุขภาพภายในรีสอร์ท
สิ่งที่เป็นไฮไลท์คือสระว่ายน้ำความยาว 25 เมตร ที่สามารถเอนจอยวิวทะเลอันดามันได้แบบเต็มตา บรรยากาศดีแบบสุดๆ แล้วก็เป็นมุมโปรดของเราเลยในทริปนี้ นอกจากนี้ยังมีโยคะสตูดิโอ มีห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบครัน และห้องซาวน่า
พอออกกำลังกายเสร็จแล้ว ลองสั่งน้ำผลไม้ปั่นหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมาสักแก้วในช่วงบ่าย เป็นอะไรที่ผ่อนคลายมากๆ วันนั้นเราสั่ง Kombucha หรือชาหมักที่ช่วยปรับสมดุลระบบลำไส้และช่วยเรื่องย่อยอาหาร ให้ทั้งความสดชื่นและเปี่ยมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ดื่มไปอ่านหนังสือไปในระหว่างเอนกายอยู่แถวสระว่ายน้ำ ลมพัดโปร่งโล่งเย็นสบาย อยากจะหลับซะตรงนี้เลย…
จองที่พัก Kapuhala Koh Samui ได้ที่ SAMUI@KAPUHALA.COM หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Kapuhala Koh Samui