ภาพจำของหาดป่าตองสำหรับใครหลายคนคือแสงสีของไนท์ไลฟ์และความคึกคัก แต่สำหรับการเปิดตัวของโรงแรมใหม่ล่าสุดบนหาดอย่าง Four Points by Sheraton Phuket Patong Beach Resort นั้นได้นำอาร์ตและคัลเจอร์เข้ามาเปลี่ยนฟีล สร้างลุคใหม่ของการเที่ยวหาดป่าตอง ให้เราสามารถเอนจอยทั้งทะเล วัฒนธรรม และความรีแล็กซ์ท่ามกลางความสะดวกสบายไปพร้อมๆ กันได้
ปี 2020 ทำให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตซบเซาไปเยอะ แต่ด้านดีคือเราได้ทะเลสีเทอร์ควอยซ์ของหาดป่าตองกลับคืนมา ได้เห็นน้ำทะเลสะอาด คลื่นแรงๆ และทรายละเอียดๆ ในบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิม เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกมากมาย โดยเฉพาะคนที่ชอบกิจกรรมทางน้ำ อย่างการเล่นเซิร์ฟ เพราะช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน หาดป่าตองจะมีคลื่นลมแรงพอดีสำหรับนักแอดเวนเจอร์ เราไปยืนดูแล้วยังนึกว่าอยู่เมืองนอกเลยนะ
โรงแรมแห่งใหม่ล่าสุดบนหาดป่าตอง
Four Points by Sheraton Phuket Patong Beach เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่อยู่ติดบีชเพียงแค่เดินไม่กี่ก้าว เปิดให้เข้าพักครั้งแรกวันที่ 1 ตุลาคม 2020 ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งลาวีอองโร้ดก็ได้มีโอกาสเป็นแขกกลุ่มแรกๆ ที่ได้เข้าพักที่นี่เลยค่ะ เมื่อมาถึงล็อบบี้ ทางพนักงานโรงแรมมาให้การต้อนรับอย่างยิ้มแย้มพร้อมกับมาตรการความปลอดภัยอย่างการวัดไข้และบริการเจลแอลกฮอลล์สำหรับทำความสะอาดมือ จากนั้นก็ไปนั่งพักในล็อบบี้ที่แสนโปร่งโล่งกว้างขวาง ตอบโจทย์ social distancing แม้จะมีแขกเข้าพักค่อนข้างเยอะ แต่อากาศที่หมุนเวียนถ่ายเทค่อนข้างดี ในพื้นที่ที่กว้างขนาดนี้ ทำให้เราคลายกังวลไปได้เยอะ
ดีไซน์ร่วมสมัย ผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นเปอรานากัน
จุดเด่นของที่นี่คือการออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจากกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบชาวเปอรานากันซึ่งเป็นกลุ่มชาวจีนเชื้อสายมลายูที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากในภูเก็ตจนก่อเกิดวัฒนธรรมใหม่อันเป็นเอกลักษณ์ มีความเชื่อว่าปัจจุบันชาวภูเก็ตกว่า 70% ก็มีเชื้อสายมาจากเปอรานากัน โดยเราจะเห็นกลิ่นอายเหล่านี้อยู่ตามลวดลายที่เพนต์อยู่ตามกำแพง ลายปลอกหมอน ของตกแต่งในห้องนอน และสีสันที่นำเข้ามาใช้ตกแต่งภายในโรงแรม จนทำให้เราแปลกใจเพราะปกติแล้วก็จะมีแต่โรงแรมในโซนเมืองเก่าภูเก็ตเท่านั้นที่เป็นสไตล์เปอรานากัน แต่สำหรับรีสอร์ทติดทะเลแบบนี้น่าจะเป็นที่แรก ก็เรียกได้ว่าครบรสชาติทั้งการเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและได้สัมผัสท้องทะเลสวยๆ
บางคนจะรู้สึกว่าโรงแรมนี้เป็นเหมือนแกลเลอรี่ที่มีชีวิต เพราะเขามีเพนต์ติ้งและสคัลป์เจอร์กว่า 70 ชิ้นแบบออริจินัล ผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ รวมทั้ง อาร์ตส ลอง กล้า (Artslonga) ดีไซเนอร์ชาวไทยที่มีชื่อเสียงซึ่งเคยร่วมงานในโปรเจ็กต์ใหญ่ของหนึ่งในแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯอย่างไอคอนสยามมาแล้วด้วย
อ่านเพิ่มเติม > บ้านชินประชา แรงบันดาลใจสำคัญในการนำกลิ่นอายเปอรานากันมาใช้ในการออกแบบตกแต่งโรงแรม
อ่านเพิ่มเติม บทความอื่นๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมเปอรานากัน >
- The Little Nyonya บูติกโฮเต็ลสุดชิคสไตล์ชิโนโคโลเนียลกลางเมืองภูเก็ต
- เที่ยวแบบชิโนโปรตุกีสสไตล์ที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ชิมหมูฮ้อง แวะร้านโกปี้เตี๊ยม
ห้องพักที่ให้มากกว่าคำว่าสะดวกสบาย
ความใหญ่โตโอ่อ่าของโรงแรมนี้บรรจุห้องพักเอาไว้ถึงกว่า 600 ห้อง โดยจะมีตั้งแต่ห้องเริ่มต้น Superior room ต่อด้วยห้องแบบ Pool access ไล่ไปจนถึงห้องแบบ 1-2 ห้องนอน ห้องพักสำหรับครอบครัวซึ่งมีห้องเด็กให้โดยเฉพาะ ไปจนถึง Ocean View Suite ที่มีขนาดกว้างขวางและให้เรามองดูพระอาทิตย์ตกลงทะเลได้จากระเบียงห้องนอน
สำหรับครั้งนี้เรามาพักที่ห้อง Superior ซึ่งก็บอกเลยว่าแม้ขนาดจะไม่ได้ใหญ่โต แต่ก็พอดีและลงตัวสำหรับการเข้าพักคนเดียว เขามีเตียงขนาดใหญ่คิงไซส์ที่นุ่มมากๆ มีหมอนตั้ง 4 ใบ ในหลายระดับความนิ่มให้เลือกหนุน หัวเตียงมีปลั๊กไฟให้ชาร์จแบต แล้วก็มีปุ่มสวิตช์ไฟ master ควบคุมไฟทุกจุดในห้องได้เพียงแค่เอื้อมมือ แล้วก็มีโซฟานั่งสบายๆ พร้อมโต๊ะหินให้เราไว้นั่งทำงานหรือกินขนม ดูทีวี
ในห้องมีตู้เสื้อผ้า เตารีด ตู้เซฟ ตู้เย็น ชุดคลุมอาบน้ำ ที่วางรองเท้า และสลิปเปอร์ ส่วนในห้องน้ำก็ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น eco friendly ดูเรียบง่ายแต่มันก็ครบทุกสิ่งที่แขกคนหนึ่งจะต้องใช้ เราคิดว่ามันค่อนข้างตอบโจทย์สำหรับคนที่เน้นการพักผ่อนที่สบาย แต่ก็ไม่ได้ต้องการจะใช้เวลาอยู่ในห้องพักเยอะมากนัก เน้นการออกไปเที่ยวชมข้างนอกแล้วกลับมาผ่อนคลายที่ห้องมากกว่า
ห้องแบบ Superior กับห้อง Pool access นั้นจะเหมือนกันเกือบทุกอย่างสำหรับการตกแต่งภายในห้อง ต่างกันก็แค่การที่ Pool access มีระเบียงที่ติดสระว่ายน้ำ เปิดประตูแล้วก็เอาขาจุ่มได้เลย ว่ายยาวไปเหมือนอยู่ในลำธารสีฟ้า โดยใช้เป็นสระระบบน้ำเกลือเพื่อเน้นความสะอาดเป็นหลัก
แต่ถ้าใครชอบสระใหญ่ๆ ก็จะมีบริเวณดาดฟ้าที่เรียกว่า The Deck Beach Club ตรงนั้นก็จะมองเห็นถนนริมหาดป่าตอง แล้วก็มองเห็นท้องทะเลกว้างๆ ไปพร้อมกัน เป็นสถานที่ที่เขามักจะใช้จัดงานอีเวนต์ หรือเหมาะแก่การมาสั่งค็อกเทลสักแก้วแล้วนั่งดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็น
อาหารอร่อยทุกมื้อตั้งแต่เช้าถึงเย็น
ห้องอาหารหลักของ Four Points by Sheraton Phuket Patong Beach ก็คือ Chao Leh Kitchen อ่านว่าชาวเล คิทเช่น ซึ่งเป็น all day dining เราสามารถมาทานได้ตั้งแต่มื้อเช้าถึงเย็น ช่วงเช้าจะเป็นบุฟเฟต์อาหารไทย จีน และตะวันตก เราชอบที่เขามีเมนูแบบอาหารใต้ แล้วก็ก๋วยเตี๋ยวที่อร่อย ปรุงสดใหม่แต่เช้า โดยเฉพาะเย็นตาโฟที่เขาบอกว่าให้ชิมก่อนปรุง เคียงข้างมากับติ่มซำแบบจุกๆ รวมไปถึงน้ำผลไม้ที่มีให้เลือกเยอะ ทั้งบานานาสมูทตี้ แอปเปิ้ล ฝรั่ง มะม่วง แต่ที่ถูกใจสายหวานสุดๆ ก็คือตู้ไอศกรีมที่ให้เราตักเอาเองได้ไม่อั้นเลย ถ้ากินไหวก็จัดไปเลยนะ
ส่วนมื้อกลางวันและเย็น ก็จะมีซีฟู้ดและอาหารใต้แบบจัดเต็ม ได้ฟีลแบบวิถีชีวิตเปอรานากันสุดๆ แต่ที่น่าสนใจก็คือเขามี Best Brews ของภูเก็ต หรือเครื่องดื่มคราฟต์ที่ใส่เอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ ลงไป โดยมีแหล่งผลิตอยู่ห่างไปจากที่นี่เพียงไม่ถึง 20 กิโลเมตร นอกจากน้ำอ้อยต้มของภูเก็ตและเล่งเต๋แล้ว ก็ยังมีคราฟต์เบียร์ชาละวันจาก Full Moon Brewworks เรียกได้ว่าเติมเต็มระดับขั้นความชิลให้เต็มที่ไปเลย
สรุปว่า Four Points by Sheraton Phuket Patong Beach แห่งนี้เป็นโรงแรมที่เรา recommend สุดๆ ในช่วงนี้ เพราะทำให้เราได้สัมผัสความเป็นภูเก็ตในทุกด้านจริงๆ ตั้งแต่ทะเล ธรรมชาติสวยๆ ศิลปะ ดีไซน์ วัฒนธรรม และความสะดวกสบายตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว แล้วจะรู้ว่าทำไมนักท่องเที่ยวทั่วโลกเขาถึงเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเที่ยวที่ป่าตองกันมากมาย
ดูเพิ่มเติมและจองที่พัก Four Points by Sheraton Phuket Patong Beach ได้ที่