จริงๆ ถ้าพูดถึงโรงแรมในย่านสุขุมวิท หลายๆ คนจะนึกถึงโรงแรมสำหรับนักธุรกิจ หรือนักท่องเที่ยวที่ชอบ explore ความเป็นเมืองมากๆ และพวกเขาคงไม่ค่อยอยู่ในห้องกันเท่าไร
แต่พอได้มาเยี่ยมชมโรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ (Carlton Hotel Bangkok) ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่เมื่อต้นปี 2020 มันก็เปลี่ยนภาพจำเดิมๆ ของเราไปเลย เพราะไม่ใช่แค่ที่นี่จะมีโลเกชั่นที่สะดวกแบบเดินไม่กี่ก้าวจากรถไฟใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท และรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก แต่ภายในห้องก็ยังกว้างขวาง ซึ่งเขาเคลมว่ากว้างที่สุดในบรรดาโรงแรมทั้งหมดในย่านนี้ แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายทุกอย่างเท่าที่คนเดินทางจะต้องการ เป็นความหรูหราแบบ 5 ดาวตามมาตรฐานของเครือคาร์ลตัน และก็ผสมสไตล์แบบไทยๆ ได้ลงตัวมากๆ
ตึกสูง 34 ชั้นเป็นสีดำตัดกับสีทองแดงดูสง่าและโอ่อ่า ถ้าเรานั่งรถไฟฟ้าผ่านย่านนี้แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างจะต้องสะดุดตากับรูปทรงที่เน้นการใช้เส้นโค้ง เช่นเดียวกับการออกแบบภายใน ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยที่บอกว่าย่านอโศกเป็นแหล่งพลังงานไฟ จึงต้องมีบ่อน้ำเล็กๆ ตั้งไว้ด้านหน้าทางเข้า และเส้นสายที่โค้งมนด้านในก็ให้ความรู้สึกเหมือนสายน้ำที่ลดเลี้ยวไปมา ซึ่งอีกส่วนมันก็ช่วยให้ความรู้สึกของคนที่เข้ามาซอฟต์ลง มีความผ่อนคลาย แล้วก็สัมผัสได้ถึงการต้อนรับที่เป็นกันเอง
ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 338 ห้อง เริ่มตั้งแต่ขนาด 37 ตารางเมตร จนถึง 129 ตารางเมตร หน้าต่างใช้เป็นกระจกกันเสียง จึงมองเห็นวิวเมืองได้กว้างโดยเฉพาะบนชั้นสูงๆ แต่ขณะเดียวกันก็กันเสียงได้มิดชิด เงียบสงบแม้จะอยู่ใจกลางเมือง เตียงนอนเขานุ่มสบายเพราะใช้ที่นอนเกรดพรีเมียมของ Sealy Posturepedic มีโต๊ะทำงานพร้อมปลั๊กเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และสำหรับคนใช้ไอโฟนก็จะแฮปปี้กับ Apple TV ในห้อง ซึ่งให้เราเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเราได้
ลงมาสำรวจร้านอาหารกันบ้าง ที่ชั้นใต้ดินของโรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ มี ร้านอาหารจีน วาล็อค (Wah Lok) ซึ่งเก๋ตรงที่เปิดให้แสงธรรมชาติส่องผ่านลงมาได้แม้จะอยู่ชั้นใต้ดิน บรรยากาศตกแต่งสไตล์ฮ่องกง ส่วนเรื่องความอร่อยก็มั่นใจได้ว่าเป็นรสชาติระดับตำนาน เพราะว่าได้เชฟ Lam Kok Weng ซึ่งเป็น Executive Chines Chef ผู้บุกเบิกและคิดค้นเมนูต้นตำรับของร้านอาหารวาล็อคที่โรงแรมคาร์ลตัน สิงคโปร์ ตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ก็ยังมี ร้านเพลท (Plate) เปิดทั้งวัน มีบุฟเฟต์และ a-la-carte ซึ่งไม่แค่อาหารไทย อาหารนานาชาติเท่านั้น แต่ยังสามารถหาอาหารเปอรานากันและสิงคโปร์ได้ที่นี่ด้วย ขณะที่ชั้น 33 เป็นคาร์ลตัน คลับ เลานจ์ เอาไว้มานั่งจิบเครื่องดื่มแบบหรูๆ มีทั้งโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์ ส่วนคาเฟ่และเบเกอรี่ เราขอแนะนำเลยว่าร้านทักซิโด้ (Tuxedo) เป็นร้านที่มีครัวเบเกอรี่แบบเปิดให้เรามองเห็นขั้นตอนการทำขนมหวานได้ ซึ่งก็เป็นอะไรที่น่าสนุกไปอีกแบบ แต่สำหรับคนที่อยากชิลกว่านั้น การขึ้นไปจิบค็อกเทลสักแก้วบาร์บนชั้นดาดฟ้าอย่างคูลลิ่งทาวเวอร์ (Cooling Tower) หรือจิบน้ำผลไม้ที่บาร์พลันจ์ (Plunge) ริมสระน้ำ แล้วนั่งคุยกับเพื่อนไปด้วย มันก็จะได้บรรยากาศที่ดีมากๆ ลองคิดถึงลมพัดเย็นสบายในช่วงพระอาทิตย์กำลังตกสิ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองห้องพักได้ที่ www.carltonhotel.co.th และเพจเฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/CarltonHotelBangkokSukhumvit
