ฉันเคยฝันอยากมาเที่ยวบาหลี แต่ไม่คิดว่าจะเป็นปีนี้ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อฉันต้องมาเข้าคอร์สการเทรนการสอนดนตรีที่นูซา ดูอา (Nusa Dua) ซึ่งอยู่ใต้สุดของเกาะบาหลี ฉันอยู่ที่นั่น 8 วันเต็มโดยไม่ได้สำรวจอะไรมากนัก นอกจากไปกินข้าวที่ Bali Collection แหล่งรวมร้านอาหารดีๆ หน้าตาเหมือน Asiatique หรือไม่ก็ลงเอยที่ร้านฟาสต์ฟู้ดในวันที่อยากประหยัด นอกนั้นฉันก็จะสั่งอาหารแบบ Delivery ให้มาส่งที่โรงแรม ด้วยความที่ไม่อยากเปลืองค่าแท็กซี่
ความทรงจำระหว่างฉันกับย่านนูซา ดูอา (Nusa Dua) มีไม่มากนักเพราะตารางเรียนอัดแน่นตั้งแต่เช้าจรดเย็น กลับมาที่พักก็เหนื่อย ทบทวนความรู้เสร็จก็สลบลงเตียง ไม่ได้เอาเท้าไปแตะหาดทรายเลย ไอ้ที่กะว่าจะแว้บไปดูฝรั่งเล่นเซิร์ฟแถว Uluwatu ก็โดนปัดตกไปอย่างง่ายดาย
หลังจบคอร์สเรียน ฉันเดินทางต่อไปยังอูบุด (Ubud) ทางตอนกลางของเกาะบาหลี เมืองศูนย์กลางทางศิลปะและงานคราฟต์ เดินไปไหนมาไหนจะเห็นแกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์ และร้านขายงานศิลปะทุกแขนง มีความโดดเด่นเรื่องวิวป่าเขา นาขั้นบันได รวมไปถึงมรดกทางวัฒนธรรมอย่างวัดวาอารามตามความเชื่อฮินดู
คนท้องถิ่นที่นั่นใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ของจริง ยังดำเนินชีวิตตามความเชื่อดั้งเดิม แต่ละบ้านจัดงานประเพณีกันบ่อยมาก ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังใส่ผ้าถุงผูกผ้าคาดเอวและเทินของเอาไว้บนหัว ขณะที่ผู้ชายจะมีผ้าโพกหัว นอกจากนี้ ด้วยความที่ถนนค่อนข้างแคบ มีมอเตอร์ไซค์เยอะแยะ คนขับรถของฉันจึงต้องขับแบบระวังแมวข้างทางเหลือเกิน
เขาเล่าให้ฟังว่า คนที่นี่เชื่อว่าแมวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ถ้ารถคันไหนขับทับแมวตาย รถคันนั้นจะเหมือนโดนสาป ไม่สามารถเอามาใช้งานต่อได้อีก ส่วนถ้าทับหมาไม่เป็นไร โถ…
การตามรอยหนังเรื่อง Eat Pray Love สำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบาย ในแอพฯ Traveloka มีทัวร์แบบ 1 วันขายด้วย ชื่อว่า A Day in Eat Pray Love Movie Scene เขาจะพาไปสถานที่ต่างๆ ที่เป็นฉากถ่ายทำในหนัง ตั้งแต่ทุ่งข้าว Tegalalang rice terrace ไปจนถึง Cafe Wayan, Padang Padang Beach และแน่นอนค่ะ บ้านของพ่อหมอ Ketut Liyer เจ้าของคำทำนายที่เปลี่ยนชีวิต เอลิซาเบธ กิลด์เบิร์ต (Elizabeth Gilbert) นักเขียนผู้รักการเดินทาง ให้พบกับความสุขและความสำเร็จอีกครั้งหลังจากที่เธอหลงทางชีวิต
ฉันเลือกพักที่บ้านของ Ketut Liyer เลย เพราะเขาเปิดเป็นรีสอร์ตด้วย แม้จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองอูบุด แต่มีรถรับส่งฟรีไป Ubud Art Market ในตัวเมืองทุกวันตอน 9 โมงเช้า
กะตุตเพิ่งจากโลกนี้ไปด้วยวัย 100 ปี เมื่อประมาณ 2-3 อาทิตย์ก่อนที่ฉันจะมาถึง นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันยังคงเห็นเครื่องสักการะในพิธีศพมีวางให้เห็นอยู่บ้าง ด้านหน้าของ Liyer’s House เป็นบ้านพักอาศัยของกะตุตเลย มองจากข้างนอกเหมือนศาลเจ้า คือจริงๆ กะตุตเป็นศิลปิน ช่างแกะสลักไม้ ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาศักดิ์สิทธิ์จากปู่ของเขา ในม้วนจารึกภาษาบาหลีโบราณบันทึกคำสอนทั้งเรื่องการรักษาโรค พิธีกรรม และการอ่านโชคชะตาจากลายมือ
เมื่อเดินผ่านบ้านพักของกะตุตเข้ามา ด้านในเป็นรีสอร์ตที่เขาสร้างเอาไว้ ตอนนี้ลูกชายของเขาซึ่งได้รับการถ่ายทอดความรู้ทั้งหมดจากกะตุตเป็นผู้ดูแลแทน บรรยากาศชอุ่มไปด้วยต้นไม้ มีสระว่ายน้ำเล็กๆ มีห้องทำสปา และสถานที่ทำโยคะ
Day 1
Ubud Batik >> Batuan Temple >> Goa Gajah >> Ibu Oka >> Pura Tirta Empul >> Kintamani >> Tegalalang Rice Terrace
วันแรกของการออกเที่ยวอูบุด เริ่มที่โรงงานบาติก Ubud Batik ไปดูขั้นตอนการทำผ้าบาติกแบบบาหลีแท้ๆ แล้วก็ช้อปปิ้งผ้าปูโต๊ะ ผ้าพันคอ และหมวกลายสวยๆ กันแต่เช้า ต่อด้วยวัด Batuan Temple วัดเล็กๆ ประจำหมู่บ้านบาตวน ก่อนจะไปถ่ายรูปหน้าแผ่นหินแกะสลักปากทางเข้าถ้ำช้าง Goa Gajah ดูคล้ายใบหน้ายักษ์อ้าปากกว้าง ซึ่งชาวบาหลีเชื่อว่าเป็นปากของปีศาจร้าย ด้านหน้ามีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ เชื่อว่าใครอยากมีลูก ให้มาดื่มน้ำที่นี่ จะมีลูกสมปรารถนา
ตอนเที่ยง เราแวะกินข้าวหน้าหมูร้านดัง Ibu Oka ในเซ็ตจะมาพร้อมข้าวและซุป โดยมีหนังหมูกรอบๆ หน้าตาเหมือนหมูหัน ส่วนไฮไลท์อยู่ที่ วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ Pura Tirta Empul หรือ Holy Water Temple มีบ่อน้ำพุที่โผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน เป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่ได้มาอาบหรือดื่ม มีฝรั่ง จีน และชาวบาหลีเอง ลงไปอาบกันเต็มสระ หลังจากนั้นก็ไปนาข้าวขั้นบันได Tegalalang Rice Terrace แล้วก็โดนเด็กๆ มารุมขายโปสการ์ดในระหว่างทางเดินลงไปด้านล่าง มีความรู้สึกเหมือนเจอด่านเก็บเงินถี่กว่าทางด่วน อะไรแบบนี้มันทำให้ความสวยของนาข้าวลดลงได้เหมือนกันนะ
แต่สุดท้ายเราก็ได้รับการปลอบใจที่หมู่บ้านคิณตามณีด้วยวิวภูเขาไฟกูนุง บาตูร์ (Gunnung Batur) ภูเขาไฟที่อายุมากกว่า 50,000 ปี บนความสูง 1,717 เมตร ด้านล่างตรงตีนเขามีออนเซ็นให้ลงไปแช่ได้ เปี่ยมไปด้วยแร่ธาตุแถมได้วิวอันโอ่อ่าของภูเขาไฟมหึมา โดยมีทะเลสาบบาตูร์ (Lake Batur) ขนาบข้าง คิดดูสิว่าน้ำ ท้องฟ้า กับภูเขาอยู่ใกล้กัน มันอย่างกับภาพในนิทานหรือภาพวาดที่เราคิดว่าไม่มีอยู่จริง แต่นี่ไง ภาพนั้นอยู่ตรงหน้าเราแล้ว
Day 2
Naugthy Nuri Warung & Grill >> Sukawati Market >> Ubud Art Market
หลังจากเสร็จกิจกรรมสโลว์ไลฟ์ที่รีสอร์ตอย่างโยคะและสปา เราเลือกมากินมื้อเที่ยงที่ร้านซี่โครงหมูขึ้นชื่ออย่าง Naugthy Nuri Warung เขาปิ้งย่างกันหน้าร้านแล้วก็เสิร์ฟร้อนๆ เนื้อหมูร่วนดี หั่นง่ายเคี้ยวง่าย ทำให้เราสั่งจานใหม่มาเบิ้ลอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องคิดมากเลยเพราะมันอร่อยจริงๆเราเลือกไปช้อปปิ้งที่ตลาด Sukawati เพราะคนขับแนะนำว่าคนท้องถิ่นเองก็มาเดินกัน ไม่ใช่ตลาดทัวริสต์จ๋าๆ ก็เลยได้เจออะไรแปลกตาอย่างร้านขายลูกเจี๊ยบที่ถูกย้อมสีขนซะแสบตา ม่วง แดง ชมพู ฟ้า เขียว ใครมาซื้อ พ่อค้าก็หยิบใส่ถุงพลาสติก ถามแล้วได้ความว่าใช้สีย้อมผ้าหรือสีผสมอาหารเพื่อสร้างสีสันดึงดูดใจให้คนมาซื้อ โดยเฉพาะเด็กๆ แต่พอเอาไปเลี้ยงสักพัก สีมันก็จะจางหายไปเอง
นอกจากนี้ในตลาดก็มีร้านขายหน้ากากบาหลี เครื่องดนตรีพื้นเมือง ผ้าทอมือลายพื้นเมือง ผ้าคลุมเตียง งานศิลปะ ภาพวาด งานไม้ ของประดับตกแต่งบ้าน เครื่องเงิน น้ำมันหอมระเหยและผลิตภัณฑ์สปา เทียนหอม เสื่อสาน เครื่องสักการะสำหรับชาวบ้านซื้อไปทำพิธี แล้วก็ดอกไม้ชั่งกิโลขาย เอามาไว้ทำสปาด้วยตัวเองในอ่างอาบน้ำโรงแรม เราใช้เวลาอยู่ที่ตลาดนี้เป็นชั่วโมงแบบไม่รู้ตัวเลย คืออย่างแรก ราคาของมันไม่ได้โหด 5 เท่าเหมือนตลาดอื่น แถมเรายังสามารถต่อราคาได้อีกตามเทคนิคของแต่ละคน ทำให้ช้อปสนุกและสบายใจมากกว่า และอย่างที่สองคือ เราได้เห็นคนท้องถิ่นเดินจริงๆ ทำให้เราได้ดูว่าคนที่นี่เขาซื้อเขากินอะไรกัน
แต่สุดท้ายตอนเย็นเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องมาตลาดทัวริสต์อย่าง Ubud Art Market อยู่ดี เพราะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟดีๆ เยอะเลย อย่าง Anomali Coffee ที่ใช้เมล็ดพันธุ์กาแฟของอินโดนีเซียนแท้ๆ หรือ Lotus Café ร้านอาหารและกาแฟที่มีสระบัวขนาดใหญ่อยู่ด้านใน สวยเหมือนภาพวาดของโมเนต์ ซึ่งแน่นอนว่ามื้อเย็นของฉันจบที่นี่
วันสุดท้ายก่อนจากอูบุดไป ฉันเจอลูกชายของกะตุตโดยบังเอิญหลังจากทานข้าวเช้า และได้มีโอกาสดูลายมือกับเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว เขามองหน้าฉันและพูดถึงลักษณะใบหน้า ดวงตา คิ้ว และปาก ก่อนจะหงายฝ่ามือของฉัน แล้วบอกว่าเส้นลายมือยุ่งเหยิงแสดงถึงความเป็นคนคิดมาก
แต่สิ่งที่มากกว่าการทำนายลักษณะนิสัยและอนาคต ก็คือเขาสอนให้ฉันรู้จักมองโลกแง่บวก รู้จักวิธีนำพลังงานที่ดีเข้าสู่จิตใจตัวเอง สอนให้เชื่อในศักยภาพของตนเองและเห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองมี ที่สำคัญ สอนให้ค้นพบความสุขในตัวตนของเราเองด้วยปัญญา
คำว่า อูบุด หรือ อูบัด ในภาษาบาหลีแปลว่า ยา มาจากพืชที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรค สำหรับฉัน อูบุดไม่ได้เป็นยารักษาโรค แต่มันสอนให้เรารู้จักเยียวยาตัวเองด้วยตัวของเราเองมากกว่า ความเป็นเมืองแห่งจิตวิญญาณนิยมของที่นี่สอนอะไรฉันหลายอย่าง ฉันไม่แปลกใจว่าทำไมศิลปินและผู้ที่ต้องการหาแรงบันดาลใจในชีวิตถึงเดินทางมาที่อูบุด นี่เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ทำให้ฉันเติบโตขึ้นอีกขั้น
Travel Tips
- ไฟลท์กรุงเทพฯ-บาหลี และที่พักที่บ้าน Ketut Liyer’s House สามารถจองได้ในแอพฯ Traveloka
- เช่ารถพร้อมคนขับแบบไพรเวทเหมาทั้งวัน โดยเราสามารถลิสต์สถานที่ที่อยากไปให้คนขับ และเขาก็จะจัดทริปให้เราเอง ราคาอยู่ที่ประมาณ 500,000 Rp. ต่อคัน ต่อวัน
- แนะนำบริการของคุณ Putu Ell (ปูตู แอล) เป็นคนบาหลี รถใหม่ สะอาดเอี่ยม แอร์เย็นฉ่ำ ขับดีไม่กระชาก มนุษย์สัมพันธ์ดี ให้ข้อมูลคำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวได้ค่อนข้างดี มารยาทงาม สนใจติดต่อได้ที่ +62 85 238 125 173 / +62 81 999 809 095 อีเมล: wayan77ell@yahoo.com และ Facebook: Putu Ell
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว
- Batuan Temple ไม่เสียค่าเข้าชม
- Goa Gajah 15,000 Rp.
- Pura Tirta Empul 15,000 Rp.
- Kintamani 11,000 Rp.
- เวลาเปิดปิดร้านอาหาร
- Naugthy Nuri’s Warung เวลาเปิด-ปิด ทุกวัน 10.00 – 22.00น.
- Anomali Coffee เวลาเปิด-ปิด ทุกวัน 7.00 – 22.00น. (ศุกร์-เสาร์ ปิด 22.00น.)
- Lotus Café เวลาเปิด-ปิด ทุกวัน 8.30 – 23.00น.
Comments are closed.