เราไม่ได้เดินทางไปอุบลมาเกิน 10 ปีแล้ว ครั้งที่แล้วอุบลยังไม่มีแม้แต่สนามบิน เราต้องนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯไปกลับอุบล ใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่ครั้งนี้เรามาเห็นอุบลในแบบที่เจริญขึ้นเยอะมาก มากจนเซอร์ไพรซ์หลายอย่าง กลายเป็นจังหวัดยักษ์ใหญ่ของภาคอีสานที่มาพร้อมศักยภาพทั้งด้านการท่องเที่ยวและด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจมากทีเดียว
อุบลราชธานี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูล เป็นหนึ่งในสี่จังหวัดพี่ใหญ่ของภาคอีสาน (นครราชสีมา อุบล อุดร ขอนแก่น) โดยเป็นอันดับสองรองจากนครราชสีมา ทำเลที่ตั้งติดกับลาวใต้ แถวๆ ปากเซ โดยมีแม่น้ำโขงกั้น และยังมีบางส่วนที่ติดกับกัมพูชา ทำให้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีนักลงทุนเข้ามาเยอะ ดูได้จากราคาประเมินที่ดินของอุบลที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีโปรเจ็กต์จากทางภาครัฐและกลุ่มทุนเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เรียกว่ามีอัตราการเติบโตเร็วมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้
เราไม่ค่อยได้มาเที่ยวแถบอีสานเท่าไร เพราะพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ แถมที่เที่ยวแต่ละแห่งอยู่ห่างกันเป็นชั่วโมง แต่พอตอนนี้มีสนามบิน มีถนนตัดใหม่สะดวกสบาย ก็คงจะต้องมองอุบลแบบใหม่ซะแล้ว ครั้งนี้เราเดินทางมาร่วมทริปกับ MGC-Asia หรือบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งปรับโฉม MGC-ASIA AUTOPLEX ในจังหวัดอุบลใหม่ทั้งหมด ให้เป็นทั้งโชว์รูมจำหน่ายและศูนย์บริการครบวงจรของรถยนต์ในเครือฯ ทั้งมือใหม่และมือสอง ไม่ว่าจะเป็น BMW, MINI, Peugeot และมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson
การออกแบบอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Retail Next นั่นคือการนำเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาใช้ เพื่อการบริการที่มีความทันสมัยมากขึ้น ออกแบบโชว์รูมให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากกว่าเน้นการขายอย่างเดียว เหมือนเราเดินเข้ามาในอาร์ตแกลเลอรี่หรือคาเฟ่ มีเคาน์เตอร์กาแฟ มีรถที่จัดวางเหมือนงานศิลปะ และที่เราชอบมากเลยก็คือ ศูนย์บริการซ่อมบำรุงที่เป็น One-Stop Service ของเขานั้นเป็นรูปแบบ Pet Friendly ลูกค้าสามารถพาสัตว์เลี้ยงมารอระหว่างเข้ารับบริการได้ นอกจากนี้ยังมีศูนย์รวมรถยนต์มือสอง จำหน่ายรถยนต์ทั้งยุโรปและญี่ปุ่น เป็นโชว์รูมที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน
นั่นคือเหตุผลที่เราพูดถึงอุบลในเชิงเศรษฐกิจ และคราวนี้เราจะออกเดินทางไปสำรวจอุบลในเชิงท่องเที่ยวกันบ้าง…
การเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปสนามบินอุบลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และข้อดีคือสนามบินอุบลอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เรานั่งรถเข้าที่พักแค่ 15 นาทีเท่านั้น ก็มาถึงโรงแรม Centara Ubon ที่อยู่ติดกับเซ็นทรัล อุบลเลย เข้าไปเดินเซ็นทรัลที่นี่แล้วรู้สึกมีชีวิตชีวามาก มีแบรนด์ไฮเอนด์หลายๆ แบรนด์ แล้วก็ยังมีโซนตลาดที่ขายของกินพื้นเมือง รวมถึงพวกผ้าทอและของที่ระลึกต่างๆ
รีวิว Centara Ubon
ด้วยมาตรฐานของโรงแรมในเครือเซ็นทารา เราค่อนข้างไว้ใจในระดับหนึ่งอยู่แล้ว พอเข้ามาเจอสถานที่จริง เขาตกแต่งได้น่ารักมาก โดยหยิบเอาเอกลักษณ์และสีสันแบบอีสานเข้ามาผสมกับสไตล์โมเดิร์น เช่นพวกผ้าทอลายเฉพาะของอุบล (อย่างลายกาบบัว) งานจักสาน และทุกอย่างคุมโทนสีส้มอิฐ ซึ่งเป็นสีซิกเนเจอร์ของความเป็นอีสาน เพราะก้อนอิฐเป็นหนึ่งในวัสดุที่อยู่คู่กับสถาปัตยกรรมไทยมาช้านาน โดยเฉพาะในแถบภาคอีสาน เกิดจากการนำดินแดงผสมกับแกลบเผาไฟเพื่อให้กลายเป็นก้อน เชื่อมประสานกันด้วยปูน มีความแข็งแรง และเรียงก่อเป็นรูปได้หลากหลาย
และต้องบอกว่าก้อนอิฐทุกก้อนที่นำมาเรียงรังสรรค์เป็นเซ็นทารา อุบล ล้วนเป็นฝีมือของช่างพื้นเมืองทั้งสิ้น
ชั้นล็อบบี้มีเคาน์เตอร์เช็คอิน และร้านอาหาร House of Kin Ubon ที่เปิดให้บริการทั้งบุฟเฟต์มื้อเช้า และมื้อกลางวันที่มาพร้อมเมนูอีสานแซ่บๆ อย่าง ยำหมูยอ ไก่ย่าง ส้มตำ หมกหน่อไม้ แกงอ่อมไก่ เนื้อโคขุนย่างจิ้มแจ่ว โดยมีโซนที่นั่งเอาท์ดอร์ใกล้กับสระว่ายน้ำ เห็นพื้นที่สีเขียว ต้นไม้เยอะ ชิลมาก มาพร้อมคาเฟ่สุดคูลอย่าง Godfather Coffee และบาร์ Teens of Thailand ที่เขารังสรรค์เครื่องดื่มมาพิเศษเฉพาะเซ็นทารา อุบลเท่านั้น คู่กับเมนูอิซากายะแบบอีสาน ไม่ว่าจะเป็น เมี่ยงปลาทอดเสียบไม้ ท้องปลาแซลมอนทอด แจ่วพอนสึ อีสานฮอทด็อก และของย่างอื่นๆ อีกกว่าสิบชนิด
เราเปิดเข้ามาดูห้องพักกันบ้าง ที่นี่มีทั้งหมด 160 ห้อง ต้องบอกว่ามันมินิมอลมินิใจมากๆ เพราะใช้วัสดุไม้และงานจักสาน รวมถึงสีม่าน สีเฟอร์นิเจอร์ไปในทิศทางเดียวกัน มองแล้วสบายตา ให้ความรู้สึก cozy อบอุ่น นอกจากเตียงขนาดใหญ่แล้วก็ยังมี Daybed ให้นอนเล่นหรือนั่งทำงานช่วงกลางวัน มีกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติ และเมื่อเปิดประตูระเบียงออกไปก็จะเจอสระว่ายน้ำสีเขียวสวยงาม
ที่เที่ยวอุบล One Day Trip
อุบลมีที่เที่ยวทางธรรมชาติเยอะมากทั้งอุทยาน น้ำตก ถ้ำ แม่น้ำ และสวนพฤกษศาสตร์ ที่เที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมอย่างวัดเก่าแก่ วัดป่า มีร้านอาหารระดับมิชลิน และร้านอาหารท้องถิ่นชื่อดังมากมาย รวมไปถึงคาเฟ่สวยๆ เก๋ๆ เกิดใหม่ขึ้นมาก เรามาดูกันว่าถ้ามีเวลาเที่ยวแค่ 1 วัน สามารถไปทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง
1. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
เส้นทาง trekking เชิงประวัติศาสตร์นี้ เราจะได้เห็นทั้งธรรมชาติที่สวยงาม อย่างการเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นแห่งแรกในประเทศไทย และจุดชมวิวแม่น้ำโขงแบบพาโนรามา แล้วเรายังจะได้พบกับกลุ่มภาพวาดเขียนสีที่เก่าแก่ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยจะมีอยู่ 4 ผาที่พบภาพเขียนสี ได้แก ผาขาม (เดินใกล้สุด) ผาแต้ม (เห็นภาพชัดที่สุด เรียงกันยาวกว่า 180 เมตร) ผาหมอนน้อย (ภาพการทำเกษตร ไร่นา) และผาหมอน (เดินไกลสุด และเป็นเส้นทางหน้าผาแคบๆ ค่อนข้างแอดเวนเจอร์)
2. วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง
เรียกอีกชื่อว่าวัดป่าใหญ่ หรือวัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบล โดดเด่นที่มีอุโบสถสวยงาม ด้านในมีพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงเป็นองค์พระประธานซึ่งศักดิ์สิทธิ์มากและมีอยู่เพียง 3 องค์ในโลก นอกจากที่นี่แล้วก็มีที่เวียงจันทน์และนครพนม ส่วนด้านหลังมีท้าวเวสสุวรรณกับพญานาค นักท่องเที่ยวแวะมาสักการะขอโชคลาภ
3. ส้มตำจินดา
ตามรอยมิชลินไกด์มาที่ร้านส้มตำไก่ย่างสุดแซ่บของจังหวัดอุบล โดยเรามากันที่สาขาถนนพิชิตรังสรรค์ ตรงข้ามโรงแรมลายทอง มีบรรยากาศสวนและบ่อน้ำ ดูร่มรื่น ห้องอาหารติดแอร์เย็นฉ่ำ สะอาดสะอ้าน เมนูส้มตำมีหลากหลายมากเท่าที่เราจะเคยได้ยินมาทั้งหมด ส่วนไก่ย่างไม่ได้ย่างเตาถ่านแบบเดิม แต่เป็นการอบกับเตาอบ ทำให้หนังกรอบอร่อย แถมยังหอมเครื่องเทศที่หมักมาอย่างเข้าเนื้อ นอกจากนี้ยังมีสาขาที่เซ็นทรัลอุบลด้วย
4. หลงรัก คาเฟ่ (Long Lux Coffee Roaster)
คาเฟ่สุดคลาสสิกใจกลางเมืองอุบล เอาใจคนรักสไตล์วินเทจ บรรยากาศดีมาก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูล และเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น เมื่อเดินเข้าไปจะเจอบ่อน้ำขนาดใหญ่ ก่อนจะพบกับตึกเก่าที่รีโนเวทใหม่เป็นร้านกาแฟคูลๆ ด้านหน้าตึกมีรถวินเทจสวยๆ จอดอยู่หลายคัน ให้เราเดินชมและถ่ายรูปเล่นได้เลย
ด้านในตึกเขาเก็บโครงสร้างเดิมไว้ ทำให้เรายังเห็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ชวนให้นึกถึงอุบลในอดีต และทางร้านก็นำของตกแต่งวินเทจมาประดับประดาได้ลงตัว บวกกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าแก่ โดยแบ่งโซนที่นั่งเป็นมุมโซฟา มุมเคาน์เตอร์ และโซนเอาท์ดอร์ที่เหมาะกับวันอากาศดี อย่างช่วงปลายมกราที่เราเดินทางมานี้ อุณหภูมิ 20 องศาต้นๆ บวกกับจิบเครื่องดื่มอย่างกาแฟ ชา หอมๆ ไปด้วย มันคือที่สุดของความชิลเลยล่ะ
เวลาทำการ 07.00-18.00น