เรามองว่าพนมเปญเป็นเมืองที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่ชอบประวัติศาสตร์ แต่ความสนุกของการเที่ยวพนมเปญไม่ใช่เรื่องราวในอดีตอย่างเดียว เรายังได้เห็นความร่วมสมัยและความเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ เกิดขึ้น จากยุคที่เคยเป็นแหล่งอารยธรรมขอม มาจนถึงยุคเปลี่ยนผ่านทางการเมือง สงคราม และเข้าสู่ยุคดิจิทัล พนมเปญคือเมืองที่บอกเล่า ‘ความเป็นกัมพูชา’ ได้ชัดเจนมากๆ นั่นคือเหตุผลที่เราเลือกมาเที่ยวพนมเปญในปี 2023
เสน่ห์ของแหล่งอารยธรรมดั้งเดิม ผสมความเป็นฝรั่งเศสจากยุคอาณานิคม
หลายคนเมื่อนึกถึงเขมร จะนึกถึงนครวัด นครธม ก่อน เพราะมีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองเสียมเรียบ (หรือคนไทยเรียกเสียมราฐ) มันกว้างขวางและยิ่งใหญ่ราวกับเป็นอีกโลกหนึ่ง ต้องใช้เวลาเดินกันเป็นวันกว่าจะสำรวจทั่ว (หรือเกือบทั่ว) จนมีคำกล่าวว่า See Angkor and Die หมายถึงว่าชีวิตนี้ต้องไปดูนครวัด นครธมสักครั้ง
แต่สำหรับเมืองหลวงอย่างพนมเปญ บรรยากาศจะต่างออกไป เราได้เห็นการใช้ชีวิตของคนที่นี่ตั้งแต่พนักงานออฟฟิศ พนักงานโรงแรม คนรากหญ้าและคนใช้แรงงานอย่างคนขับตุ๊กตุ๊กแท็กซี่และพ่อค้าในตลาด รวมถึงเห็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเขมรดั้งเดิมกับวัฒนธรรมฝรั่งเศสที่เข้ามาสร้างอิทธิพลไว้ เวลาเดินไปตามถนนจะเจอตึกแบบเฟรนช์โคโลเนียล สลับกับตึกที่สร้างใหม่ บางตึกและบางตรอกซอกซอยยังคงใช้ชื่อภาษาฝรั่งเศส โดยเฉพาะสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญต่างๆ ส่วนบ้านคนทั่วไปมักจะมีรูปท่านผู้นำกัมพูชาแปะไว้หน้าบ้าน
ถนนในพนมเปญจะเดินยากหน่อย ยากยิ่งกว่ากรุงเทพฯซะอีก เพราะฟุตบาธกลายเป็นที่วางของหรือที่จอดรถ บางร้านที่ทำธุรกิจค้าขาย ก็นำของออกมาตั้งร้านกันบนฟุตบาธเลย (เราเห็นร้านซักรีด ตากผ้าลูกค้าบนถนน) คนจึงต้องลงไปเดินบนถนนแบบระวังหน้าระวังหลัง ส่วนเวลาข้ามถนน รถที่นี่ก็เกรี้ยวกราดพอสมควร แถมยังมีทางม้าลายไม่ค่อยเยอะ การจะไปไหนมาไหนในพนมเปญจึงต้องนั่งแท็กซี่หรือตุ๊กตุ๊กจากจุด A ไปยังจุด B จะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด และราคาก็ไม่แพงเลย
คนเขมรดูทีวีไทยกันเป็นส่วนใหญ่ รู้จักดารานักร้องไทยใหม่ๆ มากกว่าเราซะอีก แถมยังติดตามเหตุบ้านการเมืองของไทยอย่างใกล้ชิด อย่างคนขับแท็กซี่คนหนึ่งชวนเราคุยเรื่องนายกไทยคนใหม่ หรือพนักงานโรงแรมที่เอ่ยชื่อดาราช่อง 3 มาได้เกือบครบ คนส่วนใหญ่ที่เราคุยด้วย พวกเขามีทัศนคติที่ดีกับเมืองไทยและคนไทย หลายคนใฝ่ฝันว่าครั้งหนึ่งในชีวิตอยากจะมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งต้องบอกว่าแม้ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าตั๋วรถบัสจากเขมรมาไทยอาจจะไม่ได้มากในสายตาเรา (เที่ยวละประมาณพันกว่าบาท) แต่สำหรับคนเขมร ฐานรายได้ค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะชนชั้นแรงงาน บางคนไม่เคยออกนอกประเทศเลยสักครั้งเดียว แต่เรื่องที่เซอร์ไพรซ์คือหลายคนพูดภาษาอังกฤษเก่งมาก โดยเฉพาะคนที่ทำงานในอาชีพที่ต้องพบปะกับนักท่องเที่ยวบ่อยๆ ถือว่าสื่อสารได้ค่อนข้างดีกว่าหลายประเทศในอาเซียนที่เราเคยไปมาเลย
สถานที่เที่ยวในพนมเปญ นอกจากวัดวาอารามแล้ว ก็ยังมีมิวเซียม ร้านอาหาร/คาเฟ่ใหม่ชิคๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านของสายวีแกนตามเทรนด์คนรักสุขภาพ ร้านอาหารฝรั่งเศส อาหารจีน เวียดนาม ไทย ร้านอาหารมิชลิน ไปจนถึงร้านติ่มซำและร้านก๋วยเตี๋ยวในสไตล์ของกัมพูชาเอง ต่อด้วยอาร์ตแกลเลอรี่ที่มีงานศิลปะมาจัดแสดง และกลายเป็นแหล่งชุมนุมของเหล่าคนทำงานครีเอทีฟในเย็นวันศุกร์ แม้แต่ซอกซอยที่มีฝรั่งมาเพนต์สตรีทอาร์ตไว้ที่กำแพง ท่ามกลางเสียงเพลงอิเล็กทรอนิกส์จากดีเจ กลายเป็นย่านฮิปที่มี vibe แบบชิคเก๋สุดๆ ซึ่งเราได้รวบรวมพิกัดต่างๆ มาไว้ให้ที่ด้านล่าง
อันที่จริงยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่มักจะรวมอยู่ในทัวร์พนมเปญที่ตุ๊กตุ๊กชอบมายื่นขายนักท่องเที่ยวด้วย ก็คือ คุกตวลสเลง หรือพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เป็นคุกสมัยที่เขมรแดงปกครองประเทศ เดิมสถานที่นี้เคยเป็นโรงเรียน แต่นำมาทำเป็นคุกไว้ขังคนที่ต่อต้านรัฐบาล นักโทษจะถูกทรมานด้วยวิธีต่างๆ นานา ในรูปแบบเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ ก่อนถูกนำตัวไปฆ่า ซึ่งรวมๆ แล้วมีชาวกัมพูชาถูกฆ่าราวๆ 2 ล้านคน ตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ปี และเหตุการณ์นี้มันเพิ่งผ่านไปราวๆ 50 ปีเท่านั้น ปัจจุบันที่นี่ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้เป็นบทเรียนแก่คนรุ่นหลัง และยับยั้งต่อต้านไม่ให้เกิดสงครามอีก แต่เราตัดสินใจที่จะไม่ไปเยือนที่นี่หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องราวแล้ว เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เศร้าเกินไป ได้ยินมาว่าหลายคนเข้าไปเจอบรรยากาศแล้วรับไม่ไหวก็ร้องไห้ หรือถึงขั้นไม่พูดไม่จากับใครไปเลยทั้งวัน
การเดินทางจากกรุงเทพ-พนมเปญ
สายการบิน Air Asia มีเที่ยวบินจากกรุงเทพไปพนมเปญ ทุกวัน วันละ 3 ไฟลท์ ใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆ ราคาย่อมเยา หากได้ตั๋วโปรก็จะมีราคาตั้งแต่เที่ยวละพันกว่าบาทเท่านั้น คนไทยสามารถเข้ามาเที่ยวแบบไม่ต้องมีวีซ่าได้ 14 วัน ขาเข้าประเทศกรอกแค่ใบตม. ที่ได้รับแจกบนเครื่องบิน ก็พร้อมเที่ยวได้เลย
เช็คเที่ยวบินได้ที่ www.airasia.com
สกุลเงินของกัมพูชา คือ เงินเรียล แต่ที่พนมเปญ เราสามารถใช้เงิน US Dollar กับเงินเรียลผสมกันได้ บางครั้งเราจ่ายเป็นดอลลาร์ เขาทอนเป็นเงินเรียล หรือบางทีเงินสดไม่พอ จะผสมทั้งดอลลาร์และเรียลไปในครั้งเดียวกันเลยก็ได้ แค่ต้องคำนวณเรทให้ดีๆ
ข้อควรระวังคือ เงินดอลลาร์จะรับเฉพาะแบงค์ ไม่รับเหรียญ และแบงค์ดอลลาร์ที่ใช้ได้ที่นี่ก็จะต้องเป็นแบงค์ใหม่ที่ไม่มีการฉีกขาดหรือยับเกินไป แนะนำให้แลกแบงค์ดอลลาร์ย่อยๆ เอาไว้ เพราะถ้าแบงค์ใหญ่เขาก็อาจไม่มีทอน
อีกทางเลือกหนึ่งคือ สามารถใช้ Travel Card อย่างพวก Youtrip, SCB Planet หรือบัตรเครดิตก็สะดวกดีเช่นกัน ส่วนใหญ่ตามร้านอาหาร ร้านกาแฟ ก็จะรับบัตร แต่ถ้าไปเดินตลาดหรือเข้ามิวเซียม พระราชวังต่างๆ ส่วนใหญ่รับเงินสด
การเดินทางแสนสะดวกในเมืองด้วยรถตุ๊กตุ๊ก-แท็กซี่ ที่เรียกจาก Grab ได้เลย
เมื่อเรามาถึงสนามบินพนมเปญแล้ว วิธีการเข้าเมืองก็ง่ายมากเลย สามารถเรียกรถแท็กซี่/ตุ๊กตุ๊กที่จอดอยู่ที่สนามบิน แต่อีกวิธีที่สะดวกและเราแนะนำมากๆ ก็คือ ใช้แอปฯ Grab แบบที่เราใช้ประจำในเมืองไทย เพื่อเรียกรถได้เลย แท็กซี่จะมีราคาแพงกว่าตุ๊กตุ๊กเท่านึง เหมาะสำหรับวันอากาศร้อน หรือคนที่สัมภาระเยอะ แต่ถ้าสายชิล จะลองนั่งตุ๊กตุ๊กดูก็สนุกและประหยัดดี ตุ๊กตุ๊กที่นี่จะมีผ้าม่านกั้นรอบรถเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้โดยสาร เราจะเปิดหรือปิดม่านก็แล้วแต่เรา และบางคันก็มีที่วางของด้านหลัง
เหตุผลที่เราแนะนำให้ใช้ Grab ก็คือ หมดปัญหาเรื่องการสื่อสารไม่รู้เรื่อง เพราะกำหนดโลเกชั่นทั้งจุดรับส่งได้ในแอปฯ สามารถแชทกับคนขับเพื่อนัดพบกันโดยมีระบบช่วยแปลภาษาให้ แถมยังเลือกตัดบัตรเครดิตจากที่บันทึกไว้ในแอปฯ หรือจะจ่ายเป็นเงินสดก็ได้ ที่สำคัญ หมดปัญหาเรื่องแท็กซี่โก่งราคาและพาวน เพราะเราดูแมพจากเส้นทางในแอปฯ ได้เลย
เมื่อออกจากอาคารสนามบิน จะเห็นร้านขายซิมการ์ดโทรศัพท์เยอะมาก ใครสะดวกซื้อซิมท้องถิ่น ก็มีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต 3 วัน ราคาเริ่มต้นประมาณ 3 USD แต่เราเลือก AIS Sim2Fly ซื้อแพ็กเกจไปจากเมืองไทย สะดวกกว่า และเน็ตก็แรงกว่าซิมท้องถิ่นของกัมพูชาซะอีก
ที่พักใจกลางเมืองพนมเปญ
พนมเปญมีที่พักหลากหลายราคา แนะนำให้เลือกย่านกลางเมืองเพื่อใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยว เนื่องจากไฮไลท์ที่เที่ยวส่วนใหญ่ก็อยู่ใกล้ๆ กันหมด และการเดินทางไปแต่ละที่จะต้องใช้ตุ๊กตุ๊ก/แท็กซี่เป็นหลัก เพราะว่ารถเมล์ขึ้นยากมาก มาไม่เป็นเวลา หาป้ายก็ไม่ค่อยเจอ ถ้าไปพักอยู่ไกลจากจุดท่องเที่ยว จะเป็นการเสียเวลาและเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยใช่เหตุ
เราพักที่ Tribe Phnom Penh Post Office Square ดีไซน์โฮเทลในเครือ Accor อยู่ใกล้วัดพนมและ Central Market รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ๆ และยังสามารถเดินไปชมวิวที่โตนเลสาบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำโขงได้อีกด้วย
- อ่านรีวิวโรงแรมได้ที่ Tribe Phnom Penh ดีไซน์โฮเทลใจกลางพนมเปญ ฟังก์ชั่นครบถูกใจนักเดินทางยุคใหม่
———————————————————
12 ที่เที่ยว-ที่กินในพนมเปญ | สายคัลเจอร์ สายอาร์ต และสายคาเฟ่
1. National Museum of Cambodia
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินี่เหมาะกับการเริ่มต้นทริปพนมเปญมากๆ เพราะจะทำให้เราได้รู้ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของเขมรก่อน ในพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร เขารวบรวมหลักฐาน โบราณวัตถุ จดหมายเหตุ มาจัดแสดงโดยมีคำอธิบายภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และภาษาเขมร หรือจะเช่า audio guide มาฟังก็ได้ เราจะได้เห็นรูปสลักหินทรายพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 รูปสลักหินทรายพระยมจากเมืองพระนครหลวง ข้าวของเครื่องใช้ในยุคอดีต รวมไปถึงหลักฐานเกี่ยวกับการแสดงทางวัฒนธรรมอย่างที่มาของโขนและการแต่งกาย อ่านแล้วเราก็จะเข้าใจรากเหง้าของเราเองไปด้วย เพราะดินแดนแถบนี้ในอดีตเชื่อมโยงกันทั้งทางการค้าและวัฒนธรรม
ด้านในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป แต่อาคารด้านนอกเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยสดงดงาม จัตุรมุขยอดปราสาทนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากภาพสลักหินทรายในปราสาทหินเมืองพระนคร แค่มาเดินถ่ายรูปเล่นด้านนอกก็มีหลายมุมแล้ว และที่ด้านหลังยังมี Museum Café บรรยากาศดีและร่มรื่น ให้ไปนั่งจิบกาแฟท่ามกลางต้นไม้ใหญ่กันด้วย
เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 8.00-17.00 จำหน่ายบัตรเข้าชมถึงเวลา 16.30 ค่าเข้าชม 10 USD
พิกัด https://maps.app.goo.gl/NSAYd7nvA76zxrQ58
2. Royal Palace
พระราชวังหลวงแห่งพนมเปญ มีชื่อทางการว่า พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญ ใช้ต้อนรับแขกจากต่างประเทศ และยังที่ประทับของพระราชวงศ์ของกัมพูชามาตั้งแต่ปี 1866 จนถึงปัจจุบัน ในวันที่เราไป พระราชมารดาของกษัตริย์กัมพูชาก็ยังประทับอยู่ภายในเขตพระราชฐานซึ่งจะเป็นบริเวณที่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไป พระราชวังแห่งนี้ก็จะมีฟีลคล้ายๆ กับพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วในกรุงเทพฯ แถมยังมีพระแก้วมรกดองค์จำลองประดิษฐานอยู่ด้วย
ด้านหน้าเป็นพื้นที่สนามหญ้ากว้างขวาง ถนนสะอาดเรียบร้อย แต่มีฝูงนกพิราบมากมาย ถ้าไม่บอกก็นึกว่าอยู่สนามหลวง ส่วนด้านในกว้างขวางมากและต้องใช้เวลาเดินชมอย่างน้อยๆ 2 ชั่วโมง โดยเขาจะแจกแผนที่ให้เราเลือกเดินตามจุด ไฮไลท์ก็อย่างเช่น ท้องพระโรงหรือพระที่นั่งเทวาวินิจฉัย (ใช้ประกอบพิธีสำคัญ เช่น พิธีราชาภิเษก พิธีอภิเษกสมรส และเป็นที่ต้อนรับคณะทูตจากนานาชาติ) พระที่นั่งจันทรฉายา (สถานที่แสดงนาฏศิลป์ในพระราชพิธีสำคัญ) หอสัมฤทธิ์วิมาน (อาคารใช้เก็บเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่ใช้ในพิธีพระบรมราชาภิเษกของกษัตริย์กัมพูชา) เขมรินทร์ปราสาท Napolean III Pavilion แล้วก็จุดที่จำลองแปลนของนครวัด นครธมมาไว้ รวมถึงจิตรกรรมฝาผนังสวยๆ
ความสำคัญของพระราชวังหลวงแห่งนี้ คือช่วงที่ก่อสร้างนั้นเป็นช่วงเวลาที่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเทศ เพราะเข้าสู่ยุคที่เข้าเป็นรัฐอารักขาของฝรั่งเศสโดยสมบูรณ์ มีการย้ายเมืองหลวง แล้วพระราชวังนี้ก็สร้างขึ้นมาบนพื้นที่ชุมชน โดยกษัตริย์กัมพูชามอบหมายให้สถาปนิกและทีมช่างของฝรั่งเศสเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง
เปิดทำการทุกวัน 8.00-17.00 ค่าเข้าชม 10 USD
พิกัด https://maps.app.goo.gl/taoJKJL8zyqQc8Yc7
3. Central Market
ตลาดกลางคืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของพนมเปญ เพราะมีสถาปัตยกรรมเป็นโดมสีเหลืองโดดเด่นอยู่ใจกลางเมือง ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส Jean Desbois มีทางออกแบ่งเป็นสี่ปีก แต่ละปีกก็แบ่งเป็นโซนร้านค้าที่แตกต่างกันไป ฟีลลิ่งเหมือนตลาดนัดจตุจักรนิดหน่อย มีทั้งโซนขายของสด ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล, โซนจิวเวลรี่ อัญมณี เครื่องเงินเครื่องทองต่างๆ ที่เขาบอกว่ามีคุณภาพดีและราคาค่อนข้างถูกกว่าเมืองไทย, โซนขายเสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋า (อันนี้ไม่ค่อยแนะนำเพราะดีไซน์เฉยๆ แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นของก๊อปแบรนด์เนม) โซนขายของแต่งบ้าน แล้วก็มีโซนที่สาวๆ ชาวเขมรไปรวมตัวกันเยอะ เพราะมีทั้งร้านทำเล็บ ร้านทำผมที่สามารถสระผม ทำสีผม ไดร์ผม กันอยู่ในตลาดได้เลย
ข้อควรระวังคือมาเดินที่นี่ต้องระวังกระเป๋าสตางค์ให้ดีๆ เพราะบางโซนคนก็เดินค่อนข้างเบียดเสียด และเวลาเขาเห็นนักท่องเที่ยวเข้ามา เขาก็จะมีวิธีการขายที่ค่อนข้างจู่โจมนิดนึง
เปิดทุกวัน 7.00-17.00น.
พิกัด https://goo.gl/maps/tpoZUdGE8rKWJMPYA
4. Wat Phnom of Cambodia
วัดพนมมีอายุกว่า 600 ปี เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในกัมพูชา ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 27 เมตรใจกลางเมือง เอกลักษณ์คือลานสนามหญ้าด้านหน้าทางเข้าวัดมีนาฬิกาขนาดใหญ่ที่บอกเวลาได้จริง รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่นสุดๆ สามารถมาเดินออกกำลังกายได้ด้วย ภายในวัดยังมีโซนสนามเด็กเล่นให้เด็กๆ และครอบครัวมาทำกิจกรรม
วัดสร้างเป็นสถาปัตยกรรมตามแบบเขมร มีรูปปั้นยายเปญที่ระบุว่าเป็นผู้สร้างวัด โดยมีความเชื่อว่าสาวคนใดหาคู่ไม่ได้ ให้ไปไหว้และอธิษฐานขอยายเปญก็จะสมหวัง ส่วนด้านบนมีพระวิหาร ประดิษฐานพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ยุคโบราณให้ได้ไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ตามผนังจะเป็นงานจิตรกรรมเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งช่วงที่เราไปก็มีวงดนตรีโบราณบรรเลงอยู่ในอุโบสถด้วย
เปิดทุกวัน 8.00-17.00น.
พิกัดhttps://goo.gl/maps/iRC2svgHcJMxpeZN8
5. Golden Temple
วัดทองคำอร่ามที่ชื่อ Wat Kean Kleang เป็นจุดถ่ายรูปสำคัญในพนมเปญ เพราะแบ็กกราวด์จะเป็นสีทองสวยไปหมดทั้งวัด ความสำคัญของวัดนี้คืออายุเกือบร้อยปี อาคารใหญ่โตและด้านในก็มีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยมาก เราไปยืนดูแล้วเพลินมากในหลายๆ จุด
พิกัด https://maps.app.goo.gl/Tw5tD47JPgoPD8sN6
6. Alleyway 240 1/2
ซอย Street Art ลับๆ ตรงนี้จะอยู่ระหว่างถนน 240 และถนน 244 ไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวัง คือจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาดเลย วันที่เราไปมีอาร์ทิสต์ฝรั่งเศสมายืนวาดรูปให้ชมสดๆ ซึ่งแถวๆ นั้นมันจะเป็นร้านอาหารชิคๆ และบาร์เก๋ๆ อย่าง ARTillery Arts Café หรือร้าน Bong Bong Bong บาร์เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยงานอาร์ตและมีดีเจมาเปิดเพลง
พิกัด https://goo.gl/maps/dCyrXsXJcXogHhpN9
7. The Vine Phnom Penh
ร้านอาหาร/บาร์บรรยากาศน่ารักชื่อเดอะไวน์ พนมเปญ อยู่ติดกับซอยสตรีทอาร์ตเลย ว่ากันว่าที่นี่มี the best burgers in town เราแนะนำเป็น BBQ Brother Burger ที่ใช้เนื้อชั้นดีจากออสเตรเลีย และ Spicy sister ที่เป็นเนื้อไก่และชีส เติมซอสรสเผ็ดหน่อยๆ ในบางวันช่วงเย็นจะมีดีเจมาเปิดเพลงหรือนักดนตรีมาเล่นสด
พิกัด https://maps.app.goo.gl/NxDoqtu8FbrJD2aH8
8. คาเฟ่ชิคบรรยากาศดี
ปี 2023 Coffee Culture กลายเป็นความป็อบปูลาร์ในพนมเปญอย่างเห็นได้ชัด คนท้องถิ่นเองก็มาพบปะพูดคุยกันตามร้านกาแฟ หรือบางทีเราก็จะเห็นฝรั่งหยิบแล็บท็อปมานั่งทำงาน จึงมีคาเฟ่เกิดใหม่หลายร้าน กลายเป็นมุมเก๋มุมชิคของพนมเปญไปเลย
คาเฟ่ที่เราแนะนำ เริ่มตั้งแต่สไตล์แบบยุโรปหรือออสเตรเลียหน่อยๆ อย่าง Brown Café เป็นร้านที่มาเปิดแรกๆ และตอนนี้ขยายไปกว่า 30 สาขาในพนมเปญ, Enso นี่จะเป็นร้านที่ Expat มานั่งเยอะมาก ต่อด้วย Backyard Café Vibe, Lot 369 และ Java Creative Cafe ส่วนถ้าใครอยากลิ้มรสกาแฟแบบสไตล์กัมพูชาให้ไปร้าน Fresh Sugarcane Espresso & Condensed Milk Coffee และร้านกาแฟเวียดนามให้ไป Hanoi Corner อ้อ! คาเฟ่แมวอย่าง CHHMA Catfe ก็มีนะ
9. ร้านอาหารและคาเฟ่สำหรับสาย Plant-based
จะบอกว่าเทรนด์การทานอาหารแบบ Plant-based หรือปราศจากเนื้อสัตว์กำลังมาแรงในกัมพูชาเช่นกัน และเรามีร้านแนะนำอย่าง Masala Dosa Street Kitchen ซึ่งเป็นอาหารอินเดียฟิวชั่น มีแซนด์วิช เบอร์เกอร์ ออมเล็ต และยังมีวีแกนค็อกเทล วีแกนไอศกรีมและขนมหวานอีกมากมาย, Bong Bonlai at YK House ที่นี่เป็นร้านอาหารที่เป็นส่วนหนึ่งของเกสต์เฮาส์ นำเสนอเมนูฟิวชั่นเพื่อสุขภาพหลายอย่างในสไตล์เอเชียน-เมดิเตอร์เรเนียน เช่น แพนเค้กมะพร้าว บาร์บีคิวเห็ด อะโวคาโดโทสต์ สลัดผลไม้ เบอร์เกอร์ผัก เป็นต้น, Element Vegetarian ร้านนี้สำหรับสายไฟน์ไดนิ่งในบรรยากาศหรูหรา มีเมนูอาหารฝรั่งเศสและเอเชียผสมผสานกันแต่ทุกจานเป็นวีแกน, Vegetarian Menu ร้านอาหารวีแกนที่เสิร์ฟทั้งอาหารเขมร ไทย เวียดนาม ในบรรยากาศสบายๆ มีตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยว แซนด์วิชบาแก๊ตต์ เต้าหู้ สำหรับเมนูอาหารเป็นวีแกนทั้งหมด แต่เครื่องดื่มบางชนิดมีผสมผลิตภัณฑ์จากนม
10. อาร์ตแกลเลอรี่ร่วมสมัย
เรามาพนมเปญครั้งนี้ตั้งใจมาสำรวจอาร์ตแกลเลอรี่เลย หลังจากที่เราเคยรู้จักอาร์ทิสต์ชาวกัมพูชาที่เคยไปแสดงงานในไทย แล้วก็รู้สึกเซอร์ไพรซ์ที่สังคมงานศิลปะร่วมสมัยของกัมพูชาเริ่มเติบโตขึ้นอย่างน่าสนใจ แกลเลอรี่หนึ่งที่ไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวัง ชื่อว่า Sra’ Art อยู่ในตึกแถว ด้านในแสดงงานของศิลปินตะวันตกแล้วก็มีงานหมุนเวียนของศิลปินกัมพูชาเองด้วย โดยช่วงเย็นวันศุกร์มีปาร์ตี้ไวน์ให้เหล่าคนครีเอทีฟมารวมตัว ส่วนคนที่ชอบงานออกแบบจิวเวลรี่ Garden of Desire Jewellery มีงานดีไซน์ของศิลปินกัมพูชาที่ยูนีกสุดๆ เราเองก็ซื้อแหวนติดมือมาวงหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมี Space Four Zero ที่โชว์ทั้งงานศิลปะและขายไวนิล ซึ่งตามเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์แล้ว ยุคเขมรแดงได้ทำลายไวนิลหรืองานบันทึกเสียงของศิลปินไปเยอะมาก ร้านนี้จึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์การฟื้นฟูศิลปะร่วมสมัยในแง่หนึ่งที่สนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์ใหม่ๆ ของศิลปินกัมพูชาด้วย
11. Hemisphere Rooftop
สกายบาร์ริมทะเลสาบ ตั้งอยู่ที่ชั้น 11 ของโรงแรม Tribe Phnom Penh Post Office Square คือที่ที่เราสามารถชมวิว 360 องศาของเมืองพนมเปญและแม่น้ำโตนเลสาบได้แบบโรแมนติกสุดๆ แนะนำให้มาชมพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็น และสั่งม็อกเทลซิกเนเจอร์อย่าง Le Mekong ที่ได้รสชาติของแครนเบอร์รี่ ขิง และเลมอน หรือ Tonle Sap by Night ที่มาในสีม่วงสุดลึกลับ ส่วนผสมของน้ำอัญชัน ขิง น้ำมะนาวสด และไซรัป ส่วนอาหารเป็นเมนูฟิวชั่นผสมผสานรสชาติตะวันตกและรสชาติแบบเขมรได้อย่างลงตัว
พิกัด https://maps.app.goo.gl/Fi2hM2AefT6pnmrv5
12. Riverside Park
แหล่งแฮงเอาท์ช่วงเย็น ติดริมแม่น้ำโตนเลสาบ เห็นแล้วนึกถึงซอยแถวหาดป่าตอง ภูเก็ต นิดหน่อย แต่อาจจะไม่ได้คึกคักขนาดนั้น แถวนี้ถือว่าเป็นสถานที่ชิลที่คนชอบมากินดื่มกันในช่วงค่ำ เพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารและบาร์มากมาย มีดนตรีสด หรืออาจจะแค่ไปเดินเล่นในสวนแถมริมน้ำ และยังเลือกซื้อทัวร์ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก และวิถีชีวิตสองฝั่งแม่น้ำแบบชิลๆ ได้อีกด้วย