ใกล้จะปีใหม่แล้ว เชื่อว่าหลายคนต้องคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในปีนี้ และสิ่งที่มุ่งหวังในปีหน้ากันแล้วใช่ไหมคะ เราก็เหมือนกัน…
ทริปไทเปครั้งแรกในชีวิตของเราลุยเดี่ยวเลยค่ะ และที่เรื่องนี้ถูกตั้งชื่อว่า Taipei Wish me luck ก็เพราะว่าจุดประสงค์ของการไปครั้งนี้ นอกจากไปเที่ยวแล้ว เรายังตั้งใจไปขอพรอีกด้วย เนื่องจากว่าไทเป ไต้หวัน เป็นเมืองที่มีศาลเจ้าเก่าแก่และวัดชื่อดังศักดิ์สิทธิ์ทั่วเกาะ เมืองนี้จึงเป็นอีกตัวเลือกที่ดีและเป็นสิริมงคลมากๆ เลยค่ะ สำหรับทริปก่อนเริ่มต้นปีใหม่ที่จะมาถึง
ทางการไต้หวันเพิ่งขยายเวลาฟรีวีซ่าสำหรับคนไทยออกไปจนถึง 31 กรกฏาคม 2563 โดยแต่ละครั้งจะอยู่ได้นานถึง 14 วัน ครั้งนี้เรามีเวลาไม่มาก แค่ 3 วัน ก็เลยมาเจาะเฉพาะที่ไทเปเมืองหลวง แต่บอกเลยว่าเมืองเล็กๆ บนเกาะนี้มีเสน่ห์มาก มันมีทั้งความจีน ความญี่ปุ่น ความโมเดิร์น อาหารจีนอร่อย ชานมไข่มุกก็ดีงาม แถมคนที่ชอบงานอาร์ต งานดีไซน์ จะกรี๊ดหนักมาก เพราะมี creative community อยู่เยอะมาก ร้านขายของดีไซน์ (ที่รอดูดเงินในกระเป๋าเรา) ก็เช่นกัน
เราเดินทางด้วยการบินไทยค่ะ บินตรงจากกรุงเทพฯถึงไทเป ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง และอย่างที่บอกว่าทริปเราแค่ 3 วันก็เลยมีแต่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องใบเดียว ความสะดวกก็คือเราสามารถเช็คอินออนไลน์จากในแอปฯ Traveloka ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องไปเข้าหน้าเว็บของสายการบิน ช่วยประหยัดเวลาได้มาก เพราะจะมี Boarding pass มาเก็บบันทึกไว้ในมือถือ ไม่ต้องปรินท์ออกมาค่ะ สามารถเดินลากกระเป๋าสวยๆ สำหรับถือขึ้นเครื่อง แล้วเปิดมือถือให้เจ้าหน้าที่แสกนพร้อมแสดงพาสปอร์ต จากนั้นก็ตรงไปนั่งรอที่หน้าเกทเลยจ้า เราชอบมากๆ
นอกจากการบินไทยแล้ว การเช็คอินออนไลน์ในแอปฯ Traveloka สามารถทำได้กับสายการบินไทยสมายล์ ไทยไลอ้อนแอร์ และก็สายการบินของอินโดนีเซียอย่างเช่นการูด้าแอร์ไลน์ได้ด้วย ทั้งหมดคือ 5 นาทีจบ ได้ Boarding pass อิเล็กทรอนิกส์มาครอง ถ้าไม่ต้องโหลดกระเป๋า ก็ไม่ต้องเสียเวลาต่อแถว ให้เดินตัวปลิวไปรอเวลาบอร์ดดิ้งได้เลย
Online Check-in เปิดให้บริการแล้ว เช็คอินออนไลน์กับ Traveloka ก่อนเดินทาง มีเวลาเหลือก่อนขึ้นเครื่อง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.traveloka.com/th-th/checkin
ทางไปจองตั๋วเครื่องบินไปไต้หวันกับ Traveloka >> https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Taipei.TAIA
หลายคนบอกว่าไต้หวันเที่ยวง่ายมาก จนมือใหม่หัดเที่ยวหลายๆ คน เค้าก็มักจะเริ่มต้นจากเที่ยวไต้หวันกันก่อน แล้วค่อยเพิ่มความยากไปญี่ปุ่น เกาหลี หรือประเทศที่ไกลๆ กว่านั้น แต่สำหรับเราไปที่อื่นมาหลายที่แล้วเพิ่งจะเคยได้มาเห็นไต้หวันจริงๆ ก็คราวนี้ อย่างหนึ่งเลยที่เราเห็นด้วยว่าเที่ยวไต้หวันนั้นง่าย ก็เพราะว่าค่าเงินไต้หวันน่ะเท่าเงินบาทเป๊ะๆ เลย (1 TWD = 1 THB) คนตกเลขอย่างเรา ไม่ต้องกังวลเลยเวลาซื้อของ 555
สถานที่แรกที่เราจะพาเพื่อนๆ มาขอพรก็คือ
วัดเสียไห่เฉิงหวงเมี่ยว (Xiahai Chenghuang Temple)
ที่นี่สำหรับขอความรักโดยเฉพาะ ถ้าสังเกตคือส่วนใหญ่คนที่มาไหว้ ตามที่เราเห็น มักจะเป็นผู้หญิง ต่างมาขอพรให้เจอเนื้อคู่ หรือไม่ก็มีชีวิตคู่ที่ราบรื่น โดยในวัดจะมีเทพเจ้าแห่งความรักหรือดวงจันทร์ประจำวัด ที่เชื่อว่าเป็นผู้ผูกชะตานำพาให้เนื้อคู่มาพบกัน
วิธีไหว้ ให้จุดธูป 3 ดอก พร้อมกระดาษไหว้ 1 พับ อธิษฐานขอพร บอกชื่อนามสกุลตัวเอง พร้อมอายุและที่อยู่ ให้ไหว้ 3 ครั้ง และเดินเข้าทางประตูขวา
วิธีเดินทาง MRT Shuanglian Exit 2 เลี้ยวซ้าย ขึ้นรถเมล์สาย 518 ที่ป้าย Mackay Memorial Hospital นั่งมาลงที่ป้าย Nanjing West Road Entrance เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
—————————————————-
ต่อมาคือ
วัดหลงซาน (Longshan Temple)
วัดนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปีแล้วค่ะ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของไทเป เขาบอกว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เยอะที่สุดในไทเป นั่นคือเทพเจ้าต่างๆ ถึง 165 องค์เลยทีเดียว ตั้งแต่เจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม เทพเจ้ากวนอู รวมถึงเทพที่หลายคนเชื่อกันว่าเป็นเทพผู้ผูกด้ายแดงให้สมหวังเรื่องความรัก ฯลฯ
คนไต้หวันที่เรารู้จักก็ยังยืนยันนอนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวัดแห่งนี้ เขาบอกว่าเราสามารถมาขอเรื่องอะไรก็ได้ การงาน สุขภาพ และความรัก ซึ่งถ้าเป็นเรื่องความรักก็จะมีวิธีขอพิเศษนิดนึงคือให้นำไม้คู่สีแดงคว่ำหงายมาประกบไหว้ไว้ที่มือ กล่าวชื่อของตัวเอง วันเกิด อายุ และบอกว่ามาจากไหน เสร็จแล้วก็ปล่อยไม้ลงกับพื้น ถ้าได้คว่ำหงาย 3 ครั้งติดกันถือว่าใช้ได้ ก็ให้หยิบด้ายแดงในช่องที่ทางวัดใส่ไว้ นำมาอธิษฐานต่อหน้าเทพเจ้าอีกครั้ง
วิธีการเดินทางง่ายมาก MRT สถานี Longshan Temple
——————————————–
ใกล้ๆ กับวัดหลงซาน เดินข้ามฝั่งถนนมาจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูอร่อยมากๆ อยู่เจ้าหนึ่ง เป็นร้านห้องแถวบ้านๆ อยู่ติดกับพวกร้านเกม
แต่จริงๆ จะบอกว่าร้านอาหารย่านนี้น่ากินเกือบทุกร้านเลยค่ะ ยังมีร้านข้าวต้มหมูกรอบในตำนานที่เปิดมากว่า 60 ปีอย่าง Zhouji Meat Porridge ที่ดังมากๆ อีกร้าน เขาบอกว่ากรอบนอกนุ่มใน ฟินมากๆ เลย
พูดถึงของกินแล้ว เราแนะนำให้ไปสำรวจของกินแบบโลคอลที่ตลาดกลางคืนค่ะ เพราะของกินเยอะมากกก ทั้งอร่อยและราคาก็ไม่แพงด้วย อย่างตลาดเหราเหอ (Raohe night market) นี่เดินสนุกมาก เตรียมเนื้อที่ในกระเพาะมาเยอะๆ นะคะ
ทางเข้าตลาดเลย จะมีซาลาเปาอบโอ่งที่การันตีความอร่อยระดับรางวัลบิบ กูร์มองด์ (Bib Gourmand) จากมิชลิน คนต่อแถวเยอะๆนั่นแหละ เดินเข้าไปเลย
แล้วยังมีไส้กรอกหมูป่า กระดูกหมูตุ๋นยาจีน อาหารทะเลปิ้งย่าง บัวลอยในน้ำเชื่อม หอมหวานมาก และแน่นอนค่ะ ร้านชานมไข่มุกแบรนด์โลคอลที่เราไม่เคยรู้จัก แต่รสชาติคือฟิน ต้องขอโทษที่ถ่ายรูปมาน้อยมาก เพราะว่าไม่มีมือถือกล้องจ้า ห่วงเรื่องกินก่อน
วิธีเดินทาง MRT สายสีเขียวมาลงที่ Songshan Station Exit 5
———————————————-
เที่ยวไทเปวันสุดท้ายของเราใช้เวลาไปกับที่นี่ค่ะ Huashan 1914 Creative Park ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์ที่สร้างขึ้นจากโรงงานผลิตไวน์และบุหรี่ รีโนเวทมาเป็นร้านขายของดีไซน์ โรงหนัง คาเฟ่ ลานแสดงดนตรี ร้านหนังสือ และสถานที่จัดแสดงนิทรรศการ มีทั้งวัยรุ่นแล้วก็พ่อแม่จูงลูกๆ มาประเทืองสมองด้วยของเล่นล้ำๆ กันเต็มไปหมด
โกดังเก่า นำไม้เลื้อยมาปลูกกลายเป็นผนังต้นไม้ เป็นแลนด์มาร์กของที่นี่เลยแหละ
ใครชอบของดีไซน์กุ๊กกิ๊กนะ รับรองเหมือนโดนแม่เหล็กดูดเข้าไปเลยล่ะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.huashan1914.com/en
เวลาเปิด-ปิด ทุกวัน 9.30-21.00น.
วิธีเดินทาง MRT สถานี Zhongxiao Xingsheng Exit 1 แล้วเดินตรงไปประมาณ 300 เมตร ข้ามถนนใต้ทางด่วน
สรุปแล้วไต้หวันสำหรับเรา อาจจะไม่ได้หวือหวาเหมือนญี่ปุ่น แต่ก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง และมันเที่ยวง่ายอย่างที่ใครเขาว่าไว้จริงๆ ด้วยค่ะ ที่สำคัญผู้คนนิสัยดี ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว อาจจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่เขาพร้อมจะช่วยเหลือมากๆ บ้านเมืองก็สะอาดและเป็นระเบียบ มีความปลอดภัย การเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกด้วยรถไฟใต้ดิน รถไฟความเร็วสูงระหว่างเมือง รวมถึงรถบัส ที่สำคัญค่าครองชีพไม่ต่างจากเมืองไทยเท่าไรเลย เอาเป็นว่าช่วงนี้ที่ยังฟรีวีซ่าอยู่ ก็รีบมากันนะทุกคน….
ใครสนใจออกไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ ไทเป อ่านที่นี่
Travel Tips
- การเดินทางทั้งหมดในไต้หวัน รถไฟใต้ดินเป็นอะไรที่ง่ายและสะดวกสุดๆ แล้ว อย่าลืมซื้อบัตร Easy Card เติมเงินเข้าไปแล้วก็ tap เวลาเดินเข้าออกสถานี ใช้เดินทางได้ทั่วไทเป ทั้งรถไฟใต้ดินและรถเมล์
- ถ้าเงินเหลือใน Easy Card ขากลับเราสามารถจ่ายค่ารถไฟ/รถบัส เพื่อไปสนามบินเถาหยวนด้วยบัตรนี้ได้ และถ้าจำนวนเงินในบัตรไม่เพียงพอ เราก็เสริมด้วยเงินสดเอาได้ง่ายๆ เลย เงินจะได้ไม่ต้องเหลือค้างอยู่ในบัตร
- อาหารจานเดียวราคาประมาณ 60-100 TWD (ในห้างก็จะแพงขึ้นมาหน่อย)
- ร้านชานมไข่มุกเยอะมากจริงๆ แต่รสชาติจะหวานน้อยกว่าเมืองไทย ต่อให้สั่งความหวานปกติก็ได้แบบไม่ค่อยหวาน ดังนั้นถ้ายิ่งไปสั่งหวานน้อย ก็จะได้แบบจืดมากๆ ไปเลย
สุดท้ายนี้ใครอ่าน Taipei Wish me luck จนจบ เราขอให้ทุกคนโชคดีในปีใหม่นี้ด้วยนะคะ 🙂
[…] ไทเป ขอให้เราไม่ถูกเทและโชคดีตลอดไ… […]