ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่อดีต เป็นสัตว์ชนิดแรกๆ เลยที่ฝรั่งจะนึกถึงเวลามาเที่ยวไทยแลนด์ ความทรงจำของเรากับช้างมีไม่มาก เพราะเกิดในเมือง เราเห็นช้างในหนังสือเรียนว่ามันช่วยเรารบกับข้าศึก ช่วยเราลากซุง ช่วยนู่นช่วยนี่ เท่าที่นึกออกก็คือช่วยทำงานทุกอย่างเท่าที่สัตว์ตัวใหญ่อย่างมันจะช่วยเราได้
พ่อแม่เคยพาเราไปขี่ช้างตอนเด็กๆ นั่งเสลี่ยงบนหลังช้าง และเราเคยนั่งกินข้าวอยู่ริมฟุตบาธในกรุงเทพฯ ก็เคยมีช้างเดินผ่านมาขออาหาร นอกจากนั้นเราก็เคยเห็นข่าวช้างถูกรถชน และบ้างก็ถูกคนฝึกเอาขอเหล็กแหลมๆ สับหัว นี่คือภาพที่เราเห็นจนชิน และพอโตขึ้น เราก็ไม่เคยชอบเที่ยวอะไรที่เกี่ยวกับการใช้สัตว์เป็นเครื่องมือทำมาหากินอีกเลย แม้ว่าเราจะชอบความน่ารักของมันมากแค่ไหนก็ตาม
แต่ล่าสุดเรามาภูเก็ต และมีคนแนะนำสถานที่เที่ยวชื่อ Phuket Elephant Sanctuary เป็นปางช้างเพื่อการอนุรักษ์ช้างมากกว่าจะเป็นสถานที่โชว์ช้างบริการนักท่องเที่ยว ที่นี่คือที่พักพิงของช้างที่ผ่านการทำงานหนักจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ มาอยู่ที่นี่ประหนึ่งเป็นบ้านหลังสุดท้ายหลังปลดเกษียณที่เขาจะได้มีชีวิตที่ดีตามธรรมชาติ และไม่ต้องทำงานหนักอีกต่อไป นับเป็นหนึ่งในโครงการแรกๆ ของภูเก็ตในเรื่องของการดูแลช้างตามแนวทางธรรมชาติ เรารู้สึกว่าไอเดียน่าสนใจ ก็เลยลองแวะมาดูค่ะ
แมวตัวนี้ต้อนรับเราอยู่ในออฟฟิศขายตั๋วของ Elephant Sanctuary เราเข้าไปติดต่อแล้วก็ได้ตั๋วมา 2 ใบ สำหรับเราและเพื่อน โดยเขาจะแบ่งเป็นรอบๆ สำหรับนักท่องเที่ยว 1 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และมีไกด์เป็นผู้นำทัวร์
เมื่อซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ (แมว) เสร็จก็นั่งรอ เมื่อถึงเวลาก็จะมีพนักงานมาเรียก และเขาจะพาเราขึ้นรถต่อไปยังสถานที่อยู่ของช้าง บรรยากาศดีเหมือนมาริมแม่น้ำโขงเลยค่ะ คลองตรงนี้ขุดขึ้นใหม่เพื่อสร้างให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของช้าง ก่อนทัวร์จะเริ่มขึ้น เขาจะมีอาหารว่าง ผลไม้ ให้ทาน แล้วก็มีรองเท้าบูทให้เราเปลี่ยน เพราะบางจุดที่จะเดินเข้าไปนั้นเป็นดินโคลน
บริเวณ Tree Top Reception คือส่วนต้อนรับ ช่วงแรกเขาจะเปิดวิดีโอพรีเซนเทชั่นให้นักท่องเที่ยวดูความเป็นมาในการก่อตั้งที่นี่ รวมไปถึงข้อควรปฏิบัติในการเดินไปชมช้าง เช่น ต้องเว้นระยะห่างกับช้างอย่างน้อย 3 เมตร และไม่ส่งเสียงดังให้ช้างตกใจ
พื้นที่กว่า 76 ไร่ ตอนนี้มีช้างอยู่ 12 เชือกเท่านั้นเองค่ะ บ้างก็เป็นช้างป่วย บ้างตาบอด บ้างก็ขาพิการ ทั้งหมดเกิดจากการผ่านการถูกมนุษย์ใช้งานหนักมาทั้งชีวิต แต่ตอนนี้สิ่งที่เราเห็นคือ ช้างทุกตัวดูสุขภาพจิตดี ดูแฮปปี้กันหมดเลยค่ะ เพราะว่ามีอิสระ เดินไปไหนมาไหนได้ แล้วก็ไม่มีการบังคับขู่เข็ญกันอีก ช้างจะอยู่ตามแต่ละจุด ซึ่งไกด์เขาก็จะพาเราเดินทัวร์ไปเรื่อยๆ และเล่าว่าช้างแต่ละตัวเคยอยู่ที่ไหนมาก่อน อายุเท่าไร ทำงานอะไรมา และตอนนี้ป่วยเป็นโรคอะไร
จุดนี้คือสระน้ำบำบัด Hydrotherapy pool ที่เอาไว้ให้ช้างลงไปเล่นน้ำ และทำกายภาพบำบัดสำหรับช้างพิการค่ะ
เราสามารถเอาสายยางฉีดน้ำเล่นกับช้างได้ และเขาก็ดูชอบใจมากๆ เลย ระวังจะโดนช้างพ่นน้ำจากงวงออกมาแกล้งเล่นนะ
เราได้เห็นการปอกเปลือกมะพร้าวของช้างด้วย เป็นวิธีการปอกที่ฉลาดและน่ารักมาก
ยืนถ่ายรูปกันอยู่ ก็อาจจะมีช้างโผล่มาร่วมเฟรมข้างหลัง แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ ช้างอารมณ์ดีมาก
กิจกรรมสุดท้าย เขาจะให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสให้อาหารช้างที่จุดนี้ เห็นแววตาเขาไหมคะ ดูแฮปปี้ ดูใจเย็น แต่ละตัวนี่อายุเยอะๆ กันแล้วทั้งนั้น เราว่าแค่ได้มาเห็นแค่นี้ ก็เป็นเสน่ห์ของช้างที่ดูน่ารักมากๆ แล้ว เราไม่เห็นต้องการนั่งเสลี่ยงบนช้าง หรือว่าให้ช้างต้องมาวาดรูปให้ดูหรืออะไรทั้งนั้น แค่ได้เห็นช้างมีความสุข มนุษย์ก็มีความสุขแล้วล่ะ
Phuket Elephant Sanctuary
100 หมู่ 2 ตำบลป่าคลอก จังหวัดภูเก็ต
เวลาเปิดปิด: 8.30-17.30 น.
โทร 07-6529-099 (8.30-17.30 น.), 0-2767-7111 (7.30 -10.00 น.)