มันเป็นเรื่องน่าสนใจเหมือนกันที่ผ้าผืนหนึ่งไม่ได้เป็นแค่ “เครื่องนุ่งห่ม”
ในสมัยก่อน ผ้าทอผืนหนึ่งมีความหมายมาก ไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนลาว หรือแม้แต่กลุ่มพื้นเมืองต่างๆ ผ้าถือว่าเป็นสิ่งที่ผูกพันกับวิถีชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย คนยุคก่อนทอชุดแต่งงานเอง ทอผ้าที่ใช้กราบพ่อแม่ในงานแต่ง หรือบางทีแม่ก็เตรียมทอไว้ให้ตอนลูกชายบวช ฯลฯ จนกลายเป็นศิลปะและวัฒนธรรมที่สืบทอดมายาวนานจนถึงปัจจุบัน อาจบอกว่าได้ว่าผ้าทอนี้คือแฟชั่นเก๋ๆ ในยุคก่อนเลยทีเดียว
ฉันเดินทางไปหลวงพระบางครั้งนี้ จุดหมายหลักคืออยากจะมาที่ “ออกพบตก” ศูนย์ทอผ้าหรือ The Living Crafts Centre ที่เกิดขึ้นจากการพบกันระหว่างตะวันออกและตะวันตก (East meets west) นั่นก็คือหญิงสาวชาวลาว คุณแววมะนี ดวงดาลา ที่เรียนรู้การทอผ้ามาตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบ จนมีทักษะติดตัว ใช้เป็นอาชีพ และอยากจะอนุรักษ์รวมถึงเผยแพร่ให้คนอื่นได้รู้จัก จนวันหนึ่งเธอได้มาพบกับหญิงสาวชาวอังกฤษ คุณโจแอนนา สมิธ ที่เข้ามาสอนภาษาที่หลวงพระบาง และทั้งสองก็ได้ร่วมมือกันพัฒนาผ้าทอของลาวให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น
ออกพบตกในหลวงพระบางจะมีอยู่ 2 แห่ง แห่งหนึ่งเป็นช็อปตั้งอยู่ในโซนที่เป็นตัวเมือง ใกล้กับถนนคนเดิน และอีกแห่งจะเป็นแหล่งการเรียนรู้ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ มิวเซียมเล็กๆ ช็อป และที่พักอยู่ในนั้นด้วย อยู่ตรงข้ามกับตลาดโพสี แห่งนี้แหละคือที่ที่เรามาเยือน
เราเดินลัดเลาะเข้ามาในซอย จะพบกับบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ริมแม่น้ำโขง เป็นเรือนไม้ บรรยากาศดีมาก สิ่งแรกที่เจอและแน่ใจว่ามาไม่ผิดที่ก็คือ กลุ่มเส้นไหมสีขาวสีน้ำเงินที่เขาตากไว้อยู่ตรงสนามหญ้า ถัดไปด้านในมีหญิงสาวกำลังนั่งทอผ้าอยู่อย่างขะมักเขม้น
เราสามารถเดินไปติดต่อที่เคาน์เตอร์เพื่อจองไกด์ทัวร์ให้เขามาพาเราเดินชมภายในศูนย์ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการทอผ้า ไปจนถึงการได้เห็นช่างทอกันสดๆ และสำเร็จออกมาเป็นลวดลายที่ต่างกัน
ใครจะแวะเข้าไปช็อปปิ้งในร้านก็ได้ แต่แอบกระซิบว่าราคาแรงอยู่เหมือนกัน ด้วยความที่มีการพัฒนาแบบ พัฒนาดีไซน์ รวมถึงวัสดุและเทคนิคใหม่ๆ ขณะเดียวกันก็เป็นงานทอมือเกือบทั้งหมด และแฝงไปด้วยอัตลักษณ์ของชาวลาวโดยแท้
สำหรับคนที่สนใจ ที่นี่เปิดคลาสสอนด้วย ทั้งเรื่องของการทอและการทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ เขาสอนกันตั้งแต่การนำเปลือก ราก แก่น จากต้นไม้มาใช้ผลิตสี ไปจนถึงวิธีการสร้างลวดลายบนผืนผ้า แหม่ เห็นแล้วอยากจะมาใช้เวลาอยู่ที่นี่สักอาทิตย์เหมือนกัน
แต่ตอนนี้เนื่องจากมีเวลาไม่มาก ก็ได้แค่นั่งกินบรรยากาศที่ร้านอาหารริมแม่น้ำโขงไป ก็เพลินจนลืมเวลาไปเลย
เราคิดว่าผ้าทอมีเสน่ห์มาก ยิ่งเมื่อได้ลองมานั่งพิจารณาดูการทอใกล้ๆ แล้ว จะเห็นว่าการจับคู่สี การดึงเส้นด้ายแต่ละเส้นมาจัดเรียงกัน เกิดเป็นลวดลายขึ้นมาที่มีแพตเทิร์นเป็นระบบระเบียบ มันไม่ง่ายเลย และนั่นทำให้ผ้าผืนหนึ่งมีความหมายขึ้นมามากกว่าฟังก์ชั่น
มันไม่ใช่แค่เอาไว้สวมใส่ แต่มันมีคุณค่าทางจิตใจ แถมยังบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ ผ้าทอของชุมชนใด ก็เล่าเรื่องของชุมชนนั้น อ่านได้ไม่เคยเบื่อ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ockpoptok.com/
Comments are closed.