เกาะพะงัน จ.สุราษฏร์ธานี มักจะเป็นที่รู้จักในด้านของปาร์ตี้สุดเหวี่ยงอย่าง Full moon party เทศกาลเต้นรำยามค่ำคืนริมทะเลท่ามกลางแสงจันทร์เต็มดวงที่หาดริ้น และสนุกกันไปจนเช้า กระทั่งพระอาทิตย์ขึ้น แต่หลังจากการมาของโควิด-19 บรรยากาศของพะงันก็กลายเป็นอีกแบบ เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ง่าย ปาร์ตี้คึกคักหายไป กลายเป็นความเงียบสงบ น้ำทะเลใสๆ หาดทรายขาว กุ้งหอยปูปลาอุดมสมบูรณ์ และวิถีดั้งเดิมแบบเรียบง่ายของชาวบ้านที่เรามองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
งาน “วิถีลากหมึก เกาะพะงัน” หรือกิจกรรมชิงแชมป์ลากหมึกสาย ลากวายด้วยวิถีชาวเกาะ เพื่อนำมาแข่งขันปรุงเมนูอาหารพื้นบ้านจากวัตถุดิบที่จับมาได้ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2563 ชิงโล่รางวัลจากสมาคมส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรักษาคุณภาพทะเลและชายฝั่งจังหวัดสุราษฏร์ธานี จึงเป็นจุดมุ่งหมายของการมาเยือนเกาะพะงันของเราในครั้งนี้
จากกรุงเทพฯ เรานั่งเครื่องบินไฟลท์เช้าของ Thai Vietjet Air ที่สนามบินสุวรรณภูมิมาลงสนามบินสุราษฏร์ธานี ซึ่งเป็นรูทใหม่ที่เขาเพิ่งมีเที่ยวบินปฐมฤกษ์ไปเมื่อต้นเดือนพ.ย. 2563 นี่เอง และไฟลท์ที่เรานั่งไปครั้งนี้ ผู้โดยสารค่อนข้างเยอะทีเดียว แต่แถวเช็คอินเขาจัดการได้ดีมาก โดยเราซื้อน้ำหนักกระเป๋าสุดคุ้มเริ่มต้น 355 บาท โหลดได้ 15 กก. และถือขึ้นเครื่องได้อีก 7 กก. ซึ่งแน่นอนว่า ช่วงนี้เขาก็จะมีมาตรการให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่อง ยกเว้นตอนทานอาหาร ใครหิวสามารถสั่งซื้ออาหารบนเครื่องได้เลย
เรามาถึงสนามบินสุราษฏร์ฯ อย่างปลอดภัยและตรงเวลาเวอร์ๆ จากนั้นก็ต่อรถมายังท่าเรือเฟอร์รี่ แล่นผ่านเกาะสมุย และมาถึงเกาะพะงันประมาณช่วงบ่ายๆ เข้าเช็คอินที่บังกะโลริมทะเลอย่าง Milky Bay Resort ที่หาดบ้านใต้ นั่งพักผ่อนให้หายเหนื่อยสักแป๊บ ก็เป็นเวลาของพระอาทิตย์ตกดินพอดี
เรือจากสุราษฏร์ธานี – เกาะพะงัน
- ท่าเรือดอนสัก (ราชาเฟอร์รี่) ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ค่าโดยสาร 210 บาท
- ท่าเรือท่าทอง (ส่งเสริมทราเวล) ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 45 นาที ค่าโดยสาร 205 บาท
- ท่าเรือบ้านดอน (เรือนอน) ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 100-150 บาท
เช้าวันรุ่งขึ้นตั้งแต่ตี 5 เราไปดูชาวบ้านลากหมึกที่ท่าเรือ ก่อนแวะซื้อขนมครกที่ตลาด ชาวบ้านที่นี่ใจดีมาก พวกเขาชวนคุยและเล่าให้ฟังว่า บริเวณสามเหลี่ยม สมุย พะงัน และหมู่เกาะอ่างทอง เป็นจุดที่ปลาหมึกจะมารวมตัวกันเยอะมากๆ ที่นี่จึงมีชุมชนเก่าแก่และชาวบ้านก็ทำอาชีพประมงเป็นส่วนใหญ่ สิ่งที่ขึ้นชื่อมากๆ คือปลาหมึกแดดเดียวและปลาหมึกแห้งที่นักท่องเที่ยวมักซื้อกลับไปเป็นของฝาก
เราก็เพิ่งรู้นะว่า ที่มาของชื่อเกาะพะงันนั้นมาจากคำว่า ‘หลังงัน’ ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นแปลว่า สันทรายที่โผล่พ้นน้ำเมื่อน้ำทะเลลดลง ตอนหลังเรียกกันเพี้ยนมาเป็นคำว่า ‘พะงัน’
ช่วงสายเป็นเวลาของการเปิดงาน ‘วิถีลากหมึก เกาะพะงัน’ ที่ศาลา ท่าเรือหัวเทียน เพื่อปล่อยตัวผู้แข่งขันลากหมึกหอมด้วยเรือพาย เสร็จแล้วทุกคนจะกลับมาเจอกันอีกครั้งตอนบ่ายสี่โมงครึ่ง เราก็เลยใช้เวลาว่างนี้ออกสำรวจเกาะพะงันกันสักหน่อยค่ะ
เราเห็นคนต่างชาติที่มาพักอยู่ที่นี่แบบระยะยาว บางคนมาเดี่ยวๆ ขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาซื้อกับข้าว และบางคนก็อยู่กันเป็นครอบครัว ใช้ชีวิตกันฮิปสเตอร์มากๆ ในขณะที่คนไทยท้องถิ่นเอง แต่ละคนก็พูดภาษาอังกฤษกันเก่งสุดๆ สลับกับการแหลงใต้ที่มีสำเนียงเป็นเอกลักษณ์ นั่นทำให้เรารู้สึกว่าที่นี่เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีเสน่ห์มากๆ เลย
ปักหมุดที่เที่ยว ที่กิน ที่พักบนเกาะพะงัน
1. Sunset Walk Koh Phangan
– ร้านอาหารและบาร์ริมทะเลที่บริเวณหาดบ้านใต้ ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดหนึ่งที่เห็นวิวพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม และมีมุมถ่ายรูปเยอะมากแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารทะเลสดๆ และค็อกเทลหลากหลาย มาพร้อมดนตรีสดและดีเจที่มาคอยเปิดเพลงสร้างบรรยากาศ
2. วัดจีน (ศาลเจ้าแม่กวนอิม)
– สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เกาะพะงันมาตั้งแต่ปี 2535 นอกจากได้มาสักการะเป็นสิริมงคลแล้ว วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส สามารถมองเห็นเกาะเต่าได้จากจุดชมวิวของที่นี่ได้เลย
3. ธนาคารปูม้า บ้านหินสองก้อน
– ด้วยความที่ปูม้าหายากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีโครงการที่ให้การสนับสนุนเพื่ออนุรักษ์และเพิ่มจำนวนปูม้า รวมถึงพัฒนาอาชีพประมง โดยอนุบาลลูกปูในบ่อคอนกรีตเพื่อฟักไข่ ซึ่งในการไข่แต่ละครั้ง จะมีลูกปูที่อยู่รอดเป็นปูม้าตัวใหญ่ประมาณ 800 ตัว ฉะนั้นแม่ปู 1 ตัว สามารถเพิ่มจำนวนปูม้าได้ 2,400 ตัว ต่อการผสมพันธุ์เพียงครั้งเดียว
4. Satimi’s ice cream
– ร้านไอศกรีมแสนน่ารักในบ้านใต้ เกาะพะงัน ทั้งแนวเชอร์เบท ผลไม้ หรือช็อกโกแลต กาแฟใส่รัมต่างๆ คือดีงาม
5. Milky Bay resort
– ที่พักบังกะโลสุดชิล ติดหาด และเดินไป Sunset Walk Koh Pha Ngan ได้ด้วย อาหารเช้าดีงาม แถมได้ดูวิวพระอาทิตย์ขึ้นแบบใกล้ชิด
6. Oniku Shabu
-อยู่พะงันก็มีชาบูและซูชิอร่อยๆ ทานได้ และที่นี่เขามาเป็นบุฟเฟต์ อิ่มไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว กุ้งสด ปูอัด ขาปูอลาสก้า ฯลฯ พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด และเมนูของหวานอย่างไอศกรีมและบิงซูเกาหลี
7. Nira’s Home Bakery
– ร้านนี้มีขนมปัง ครัวซองต์ เค้ก และขนมอย่างบานอฟฟี่ พายต่างๆ รวมไปถึงสูตรน้ำผักผลไม้ปั่นที่ดีต่อสุขภาพ ตกแต่งร้านได้น่ารัก ใครอยากสั่งกาแฟสักแก้ว นั่งหน้าร้านมองดูคนผ่านไปมาเพลินๆ ก็ได้
ช่วงเย็น เรากลับมาที่งานวิถีลากหมึกอีกครั้ง หลังจากที่เขาปิดรับหมึกหอมจากผู้แข่งขัน ที่ศาลา ท่าเรือหัวเทียน ก็มีกิจกรรมปล่อยลูกปูม้าคืนสู่อ่าวบ้านใต้ ซึ่งเป็นกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่ช่วยฟื้นฟูพันธุ์ปูม้าที่เริ่มหายาก ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นและให้ชุมชนชายฝั่งได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไป
จากนั้นเขาก็เริ่มแข่งขันปรุงอาหาร ทั้งสองประเภท ได้แก่ ยำหมึก และคั่ววาย โดยเหล่าแม่บ้านพะงันที่มาตั้งครก ตั้งอุปกรณ์ทำครัวต่างๆ รอ บรรยากาศคึกคักและสนุกสนานมากค่ะ ที่สำคัญคือทุกคนได้ทานอาหารร่วมกัน อาหารอร่อยๆ ที่มาจากท้องทะเลพะงัน ซึ่งปรุงโดยชาวบ้านพะงัน ไม่มีอะไรจะเอ็กซ์คลูซีฟกว่านี้แล้ว
ถึงแม้ว่าหาดริ้น เกาะพะงัน จะได้ชื่อว่ามีพระจันทร์เต็มดวงสวยที่สุดจนเป็นที่มาของปาร์ตี้ที่ครึกโครมและสนุกสนานที่สุด แต่หลังจากการมาสัมผัสเสน่ห์ของท้องถิ่นพะงันในทริปนี้ เราได้ค้นพบว่า หาดอื่นๆ ของพะงัน ก็ยังมีอีกหลายด้านที่น่าประทับใจ มีทะเลสะอาดน้ำใส มีหาดทรายขาวละเอียดน่าเดินเล่น มีภูเขา มีน้ำตกหลายแห่ง และที่สำคัญ ที่หาดบ้านใต้ เราได้เห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเท่าที่เราเคยเห็นมาในชีวิต
Travel Tips
- จองตั๋วสายการบิน Thai Vietjet Air เส้นทางกรุงเทพฯ – สุราษฏร์ธานี รวมถึงอีกหลายเส้นทางท่องเที่ยวทั่วไทย ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี ได้ที่ https://www.vietjetair.com/sites/web/th-th/home
- บริษัทพะงันทัวร์ 2000 บริการขนส่งผู้โดยสารไปลงเรือเฟอร์รี่ เกาะพะงัน 077-205-799
- จุดชมปะการังน้ำตื้นที่สวยที่สุดของเกาะพะงันคือ หาดแม่หาด
- หาดสลัด มีตำนานจากกลุ่มโจรสลัดที่เคยมาจอดเรือซ่อนตัวที่นี่ หาดนี้จึงค่อนข้างเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัว
- อีกหาดสำหรับคนชอบความสงบคือ อ่าวศรีธนู เหมาะแก่การมานอนอาบแดดหรือนอนอ่านหนังสือสักเล่ม แถมมีพระอาทิตย์ตกที่สวยเหมือนกัน
- หาดริ้น จะมีหาดริ้นใน กับหาดริ้นนอก สำหรับหาดริ้นในจะเงียบสงบกว่า ส่วนหาดริ้นนอกคือสถานที่จัดปาร์ตี้ฟูลมูน และขึ้นชื่อว่าเป็นหาดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะพะงัน
