สำหรับคนรักทะเล บีชสวยๆ และแสงแดดสีทอง โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองตากอากาศของออสเตรเลีย อยู่ในรัฐควีนส์แลนด์ (Queensland) ใกล้กับเมืองบริสเบน คือดินแดนในฝันที่ควรจะมาสัมผัสสักครั้ง
- ทำความรู้จักเมืองบริสเบนได้ที่ > Brisbane เมืองสุดชิลที่มีต้นไม้ใหญ่ เลนจักรยาน ศิลปะดูฟรี และมีโคอาล่าให้อุ้ม
เหตุผลที่เขาเรียกที่นี่ว่าโกลด์โคสต์ ก็คือแสงสีทองของพระอาทิตย์ที่จะสาดลงมายังหาดทรายอันยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตาในตอนเช้าและตอนเย็น มันเป็นสีทองอร่ามจริงๆ โดยมีลมทะเลพัดเย็นๆ และนกบินผ่านเป็นระยะ
ก่อนจะไปอ่านรีวิว เราออกตัวก่อนเลยว่า เห็นจากรูปแล้ว ทะเลสวยๆ แบบนี้ คนชอบคิดว่าแพง เอื้อมไม่ถึง แต่สำหรับเรา มาที่นี่ใช้ตังค์น้อยกว่าไปยุโรปและญี่ปุ่นมากๆ โกลด์โคสต์ไม่ได้แพงอย่างที่คิดจ้า
การเดินทางไปยังโกลด์โคสต์
- จากตัวเมืองบริสเบน สามารถเช่ารถขับไปได้ เพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้น หรืออีกวิธีคือไปโดยรถไฟ (ใช้บัตร Go Card แตะได้เลย) ขึ้นที่ Central Station ใจกลางเมืองบริสเบน และหลายคนจะนิยมไปลงที่สถานี Nerang เพื่อต่อบัสไปยังชายหาด Surfer’s Paradise ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเช่นกัน
- จากกรุงเทพฯ ไม่มีไฟลท์บินตรงไปยังโกลด์โคสต์ ถ้าหากไม่บินลงบริสเบนแล้วต่อรถไฟ ก็สามารถบินไปต่อเครื่องที่สิงคโปร์แล้วใช้บริการ Scoot หรือ Jetstar มาลงที่สนามบินโกลด์โคสต์ จากนั้นต่อ light rail เป็นรถรางในเมือง ราคาแค่ 10 AUD แล้วจะไปไหนก็ได้ใน 1 วัน รถรางนี้ไปถึงทุกโรงแรมที่พักในเมืองโกลด์โคสต์ ประหยัดมากๆ
สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ใน Gold Coast
Point Danger พรมแดนสองรัฐ จุดชมวิวที่เห็นเส้นโค้งขอบโลก ที่ที่เหมาะแก่การมารอดูปลาวาฬ
ที่แรกที่เรามาแวะ ก็คือพอยท์ แดนเจอร์ ค่ะ เป็นชื่อของแหลมที่ตั้งอยู่ที่ Coolangatta ทางตอนใต้สุดของโกลด์โคสต์บนชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย ความเก๋ก็คือจุดนี้ นอกจากผู้คนจะนิยมมาชมวิวทะเลที่เห็นเป็นเส้นโค้งขอบโลกตรงมหาสมุทร มีโลมา มีปลาวาฬแล้ว ตรงถนน Boundary Street ก็ยังเป็นพรมแดนระหว่างรัฐนิวเซาธ์เวลส์กับรัฐควีนส์แลนด์ด้วย
Point Danger Park คือที่ที่ทำให้เราได้เห็นไลฟ์สไตล์วันอาทิตย์ของชาวโกลด์โคสต์ได้ชัดเจนที่สุด เขาชิลกันมากค่ะ ทุกๆ วันหยุด ทั้งครอบครัวและเพื่อนฝูงก็จะพากันมาปิกนิกบริเวณสนามหญ้า จูงหมามาเดินเล่น หรือไม่ก็ปูผ้าและนอนอาบแดด
ช่วงเที่ยง เราแวะทานข้าวที่ร้าน Café D Bar ซึ่งอยู่ที่ Point Danger เลยค่ะ ร้านอยู่ริมถนนและมองวิวทะเลแบบพาโนรามาของโกลด์โคสต์ไปด้วย ชิลอย่าบอกใคร
คาเฟ่ชื่อดังของโกลด์โคสต์ที่เปิดสำหรับมื้อเช้าและมื้อกลางวัน คนเยอะมากค่ะในช่วงกลางวัน มีทั้งเบอร์เกอร์ สเต็ก และอาหารเอเชียอย่างปลาแซลมอนทานกับซุปมิโสะ
Cafe D Bar
เปิดทุกวัน 6.30 a.m.- 4 p.m.
www.cafedbar.co
Burleigh Head National Park
ในช่วงบ่าย เราพามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติที่โกลด์โคสต์กันค่ะ อย่าเพิ่งคิดไปถึงเขาใหญ่อะไรแบบนี้ คนละอย่างกันเลย ที่นี่ชื่อว่า Burleigh Head National Park
เราสามารถไปรีแล็กซ์ที่หาด Echo Beach เล่นวอลเลย์บอลชายหาด หรือจะลงไปเล่นน้ำ เล่น Paddleboard ก็ได้ และถ้าเดินไปตามเส้นทางเทรกกิ้ง ก็จะได้เห็นพืชพรรณนานาชนิดราวกับเป็นมิวเซียมตามธรรมชาติของต้นไม้เลยทีเดียว เราจะเห็นวิวมุมกว้างของทะเลที่ถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นปลาวาฬมากระโดดในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ
แถม Tips เล็กๆ น้อยๆ ค่ะ ถ้าเดินไปตามทางเดินจนไปถึงชั้นสูงๆ เราจะได้กลิ่นไม้ พวกไม้หอม เหมือนกลิ่นยาจีน เย็นสบายจมูก และทำให้สมองโปร่งโล่ง เป็นการบำบัดจากธรรมชาติจริงๆ อันนี้เราชอบมากๆ รีแล็กซ์ยิ่งกว่าไปสปาอีกค่ะ แถมจะอยู่นานเท่าไรก็ได้ อากาศก็เย็นกำลังดี เดินขึ้นเขาได้ไม่เมื่อยเลย
Surfer’s Paradise
มาต่อกันที่ชายหาดที่ป็อปปูลาร์ที่สุดในโกลด์โคสต์อย่างหาดเซิร์ฟเฟอร์ส พาราไดซ์ จากสายตาของเราเองแล้ว เราว่าตรงนี้เหมือนพัทยาที่สุดเลยค่ะ ดูจากชื่อแล้วก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหาดนี้คนนิยมมาเล่นเซิร์ฟกัน ค่อนข้างคึกคัก โดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภา เหล่าเซิร์ฟเฟอร์ทั้งหลายจะเดินทางมาอวดลวดลายกันที่หาดแห่งนี้ นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์อย่างปีนหน้าผาและกระโดดร่ม ในขณะที่ริมถนนจะมีของขาย มีร้านรวงให้ช็อปปิ้ง มีห้าง มีร้านอาหาร อ้อ! มีคาสิโนด้วย
SkyPoint Observation Deck
อยากเห็นวิวโกลด์โคสต์มุมสูง ต้องมาที่นี่ค่ะ ขึ้นลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลกไปชั้น 77 ใช้เวลาแค่ 43 วินาที ก็จะมาพบกับจุดชมวิวที่สูงที่สุดและฮอตฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่สุด และเราก็จะได้เห็นภาพที่เป็นซิกเนเจอร์ของโกลด์โคสต์ด้วยตาของตัวเอง นั่นก็คือตึกสูงระฟ้า ตั้งเลียบไปกับชายหาดทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ที่ความสูง 230 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
เคล็ดลับคือมาให้ถึงก่อนช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก เราจะได้เห็นท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนสี และถนนที่หาด Surfer’s Paradise ด้านล่าง ก็จะเริ่มส่องประกายเมื่อฟ้าเริ่มมืด
อีกฝั่งหนึ่ง เราจะมองไปเห็นบ้านเรือนของคนที่โกลด์โคสต์ เป็นบ้านเดี่ยวมีเนื้อที่ค่อนข้างมาก และแต่ละหลังก็มักจะมีสระว่ายน้ำเป็นของตัวเองด้วยล่ะ ในขณะที่ติดทะเลอีกต่างหาก
ท่าเรือที่ Marina Mirage จุดชมพระอาทิตย์ตกตอนเย็นที่ชิลที่สุดของ Gold Coast
ท่าจอดเรือยอชต์แห่งนี้ อยู่ใกล้กับ Sea World Resort เราแนะนำให้ทุกคนมาดูพระอาทิตย์ตกแถวนี้ค่ะ ไม่ต้องพูดเยอะค่ะเจ็บคอ ไปดูภาพกันเลยว่าแสงสีทองสวยสมชื่อโกลด์โคสต์ไหม….
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยว Gold Coast ทั้งวิธีการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว แนะนำร้านอาหารและที่พัก ได้ที่ www.destinationgoldcoast.com