เรายืนอยู่บนถนนเจริญกรุง มองไปยังถนนฝั่งตรงข้าม แถวๆ ซอยเจริญกรุง 43 เราเห็นคาเฟ่ในห้องแถวเล็กๆ ที่เป็นเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวสะอาด ตัดกับขอบประตูไม้ และผนังกระจกที่มองเข้าไปภายในเห็นเครื่องทำกาแฟและผู้คนที่กำลังนั่งคุยกันอยู่อย่างออกรส เหมือนเป็นเซฟโซนท่ามกลางความวุ่นวายของถนนใจกลางเมือง
‘มาดิ’ คือคำที่เราจะพูดเวลาชวนเพื่อนสนิทสักคน
ร้านนี้ชื่อ Madi BKK อ่านเป็นชื่อไทยว่า ‘มาดิ’ คล้ายกับเชิญชวนเราในแบบเพื่อนสนิทคนหนึ่งให้เข้าไปในร้าน เพื่อจิบเครื่องดื่มสักแก้ว กินขนมสักจาน แล้วก็เอกเขนกอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่คล้ายกับมาบ้านเพื่อน มีกลิ่นหอมของกาแฟให้ผ่อนคลาย และมีงานศิลปะประดับประดา ภายใต้หน้าตาของร้านที่เป็นสไตล์มินิมัล นอร์ดิก ด้วยเส้นสายสะอาดตา เรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น ลดทอนความวุ่นวาย เหลือแต่ ‘ความน้อย’ ที่ผ่านการกลั่นกรองทางความคิดมาอย่างดี สัมผัสได้ถึงหัวใจของผู้ออกแบบ
คุณจี๊ป สาธิยา ศิริพจนากร อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Esquire คือหนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน ที่นำเอาแพสชั่นของตัวเองทั้งหมดที่มี บวกกับประสบการณ์ในการทำสื่อสิ่งพิมพ์ ความสามารถด้านวิชวล และการเดินทาง มาใส่ไว้ในคาเฟ่เล็กๆ แห่งนี้ ร่วมกับเพื่อนสนิทของเธอ คุณเมย์ เมธิกานต์ ขวัญเมือง
“จี๊ปอยากทำคาเฟ่ และไลฟ์สไตล์แกลเลอรี่ ตอนแรกเราก็ไปดูโลเกชั่นอยู่หลายแห่ง พอได้มาเห็นตึกนี้ที่เจริญกรุง มันก็เป็นตึกเก่านะคะ โทรมมาก แต่เราเข้ามายืนแล้วกลับรู้สึกดี รู้สึกเย็น แล้วก็เห็นภาพ Madi BKK ขึ้นมาที่นี่เลย เกิดความคิดเลยว่าอยากจะทุบตรงนั้น ทำตรงนี้ อยากทำ curve เป็นวงรีปิดคานยังไง มันออกมาโดยธรรมชาติ เราก็เลยเลือกที่นี่มาด้วยฟีลลิ่งเลย ซึ่งเพื่อนเองก็ชอบเหมือนกันค่ะ” คุณจี๊ปเล่าถึงจุดเริ่มต้นของร้านกาแฟที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนก.ค. 2564
คาเฟ่สไตล์มินิมัลนอร์ดิก กับการคัดสรรวัสดุและเฟอร์นิเจอร์แบบสั่งทำทั้งหมด
“ตอนช่วงท้ายๆ ของการทำ Esquire magazine มีอยู่ช่วงหนึ่งเราลาไปเที่ยวแถบสแกนดิเนเวีย เรารู้สึกชอบสไตล์การออกแบบแบบนอร์ดิกมากๆ ชอบอะไรที่เป็นเส้นโค้ง วงกลม ทำให้เรามีภาพชัดในการออกแบบที่นี่ แล้วก็พอดีมีเพื่อนที่เป็นอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ เขาจบมาจากสวิส ก็มาช่วยต่อยอดไอเดียต่างๆ ของเราได้เยอะมาก ทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างและลงตัว เราทำใหม่ทั้งหมด ไปจนถึงระบบน้ำ คือห้องน้ำจะต้องไม่อยู่ข้างหลังร้าน เหมือนห้องแถวร้านก๋วยเตี๋ยว ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์ทุกตัวก็เป็น custom made ทั้งหมด หาช่างมาทำใหม่เลย แม้แต่ผ้าที่หุ้มเฟอร์ฯ เราก็เลือกเองทั้งหมด” เธอทำชั้นล่างเป็นส่วนของร้านกาแฟ โดยเจาะพื้นที่ด้านหลังให้เป็นเพดานสูงเชื่อมขึ้นไปที่ชั้นบนซึ่งทำเป็นโซนแกลเลอรี่จัดแสดงงานศิลปะหรือพื้นที่สร้างสรรค์อื่นๆ
เธอย้ำว่าการออกแบบมาจากความชอบของเธอจริงๆ โดยที่ไม่เคยคิดแม้แต่นิดเดียวว่าจะทำพื้นที่ตรงไหนให้เหมาะสำหรับการถ่ายรูปของเหล่าอินสตาแกรมเมอร์
“หลายๆ ร้านยุคนี้เขาตั้งใจทำร้านให้คนถ่ายรูปนะ แต่ของเราไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่คิดแบบนั้น ไม่มีเลย เราแค่คิดว่าร้านต้องแป็นแบบที่เราชอบ เพราะเราอยู่กับมันทุกวัน กาแฟ หรือขนม พายต่างๆ ก็ต้องเป็นแบบที่เราชอบ ไม่งั้นเราขายคนอื่นไม่ได้ เพราะมันเหมือนโกหกคนอื่น” และนี่คือเหตุผลที่ร้านนี้ไม่มีเครื่องดื่มปั่น เนื่องจากเธอคิดว่าเสียงของเครื่องปั่นมันมักจะรบกวนบทสนทนาของผู้คน
คอนเซ็ปต์หลักของที่นี่คือ Circle of Friends เธออยากให้ที่นี่เป็นมากกว่าแค่ร้านกาแฟ แต่เป็นสถานที่ที่ดึงดูดคนแบบเดียวกัน คนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน หรือคนที่ต่างกันก็ได้ แต่นั่งคุยกันแล้วสบายใจ “เรารู้สึกว่าชีวิตเราโตมาได้ เราโชคดีที่มี circle ของเพื่อนฝูงที่ดีมาก เราเชื่อว่าคนที่ไม่ใช่ type เรา สุดท้ายก็จะเฟดหรือหายไปเอง อย่างตัวเราเองเวลาไปร้านกาแฟ เราก็จะมีร้านโปรดอยู่ไม่กี่ร้าน และร้านที่เราชอบมันก็ไม่เกี่ยวกับการตกแต่งหรือหน้าตารูปแบบของร้านเลย แต่เป็นเรื่องของบรรยากาศมากกว่า คือบางที่มันก็ไกลจากบ้านมากนะ แต่เราก็ไปบ่อยจนกลายเป็นเพื่อนกับเจ้าของร้านไปแล้ว เพราะรู้สึกว่าเข้าไปนั่งแล้วมันเหมือนเป็น comfort zone”
เมล็ดกาแฟไทยคุณภาพดีจากแม่จันใต้ เชียงราย เบลนด์หลักของร้าน
กาแฟของร้าน Madi ก็มาจากความชอบของเจ้าของร้านเช่นกัน คุณจี๊ปเล่าว่าเธอเทสกาแฟเองหนักมาก ก่อนจะเปิดร้าน และสุดท้ายเธอคัดกาแฟดี เป็นกาแฟจากแม่จันใต้ จังหวัดเชียงราย ในฟาร์มที่ไม่ใช้สารเคมี สะอาดและมีคุณภาพดีเทียบเท่ากาแฟ specialty มาเป็นเบลนด์หลักของร้าน กินกับนมหรือผลไม้ก็อร่อย ส่วนกาแฟดริป จะใช้เป็นกาแฟนอก อย่างเอธิโอเปีย เคนยา โดยมีเมล็ดหมุนเวียนให้เลือกเป็นระยะ
เครื่องดื่มทุกเมนูจะหวานน้อยทั้งหมด เพราะเจ้าของร้านไม่ชอบหวาน โดยมีเมนูขายดี คือ Madi culture coffee กาแฟนมที่หวานมันกว่าลาเต้นิดหน่อย ตามมาด้วยพวกกาแฟตระกูลแบล็ก ลาเต้ มัทฉะ แล้วก็ Yuzu Americano by Mr.B อเมริกาโนผสมน้ำส้มยูซุที่หอมมากๆ ส่วนขนมที่ฮิตๆ ของร้าน ก็จะเป็นพายเห็ด (Truffle Mushroom Pie) และ Giant sausage pie เป็นต้น
แต่ถึงรสชาติของเครื่องดื่มและขนมจะดีแค่ไหน รสชาติของมิตรภาพก็เป็นสิ่งที่ตรึงอยู่ในความทรงจำได้ยาวนานกว่า ลองก้าวเข้าไปที่ร้าน Madi BKK ดู แล้วจะพบว่า บทสนทนาที่เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ ทั้งอร่อยและสร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้ไม่แพ้กาแฟแก้วโปรดเลย
Madi BKK
เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00น. (เฉพาะศุกร์-อาทิตย์ ปิด 17.00น.)
ปากซอยเจริญกรุง 43
โทร 065-146-6445