นี่คือครั้งแรกที่เราได้มาลองทานอาหารอินเดียแบบไฟน์ไดนิ่ง ร้านนี้ตั้งอยู่ในโรงแรม Amari Bangkok ย่านประตูน้ำ ซึ่งหลายคนอาจจะนึกถึงความจอแจและวุ่นวายบนถนนด้านนอก แต่บอกเลยว่าพอก้าวเข้ามาในโรงแรมอมารี ทุกอย่างก็เงียบสงบ บรรยากาศหรูหรา โดยเฉพาะที่ร้านอาหารนิลา (NILA) ที่ชั้น 4 ตกแต่งร้านได้สวยมากจนเหมือนเรามาอยู่ประเทศอินเดียแล้ว

ห้องอาหาร NILA เขามีคอนเซ็ปต์ที่เรื่องราวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการค้าทางทะเลของอินเดีย พ่อค้าชายฝั่งทะเลในช่วงทศวรรษ 1900 ที่เดินทางและพบเจอประสบการณ์ต่างๆ ทั้งผู้คนจากหลากหลายชาติที่เข้ามาทำการค้า รวมถึงวัตถุดิบและสูตรอาหารของแต่ละเมืองท่าที่เดินทางไป ทุกอย่างคือเสน่ห์ที่นำมาผสมผสานและถ่ายทอดผ่านรสชาติอาหารชายฝั่งที่ได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกส

คำว่า ‘นิลา’ หมายถึง สีน้ำเงิน การตกแต่งร้านจึงมีสีน้ำเงินให้เห็นอยู่เยอะ สื่อถึงทะเลด้วย และก็ยังเล่นกับลวดลายแบบอินเดีย ซึ่งมันดูรุ่มรวยในรายละเอียด แต่พอมารวมๆ กันแล้วกลับออกมาเข้ากันอย่างเป็นเอกลักษณ์ แถมมาพร้อมของตกแต่งของพ่อค้าอินเดียวางอยู่ตามมุมต่างๆ ในร้าน ให้เราสามารถไปเดินชมได้สนุกมาก

วันที่เราได้มาชิมอาหารที่นี่ถือว่าพิเศษมาก เพราะเป็นดินเนอร์พิเศษ เรียกว่า 4-hands dinner คอลแลบกันระหว่างร้าน NILA Bangkok และ Tambu Phuket สองร้านอาหารอินเดียที่มีเชฟประจำร้านเป็นชาวอินเดียที่ใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยมานาน แถมมีดีกรีเป็นเชฟกระทะเหล็กประเทศไทยทั้งคู่ด้วย ได้แก่ เชฟบารัธ ชรินดาร์ บัต จากร้านนิลา และเชฟซอราป ซาเดวา จากร้าน Tambu ป่าตอง ภูเก็ต จับมือกันสร้างสรรค์เมนู 10 คอร์ส เผยให้เห็นความหลากหลายของอาหารจากชายฝั่งตะวันตก ตะวันออก และทางใต้ ผสานอิทธิพลของโปรตุเกสและยุคจักรพรรดิโมกุลของอินเดีย รวมไปถึงศิลปะการปรุงอาหารด้วยถ่าน

เราชอบที่เขาเสิร์ฟเมนูออร์เดิร์ฟเล็กๆ พอดีคำก่อน และจะค่อยๆ ไล่รสชาติอาหารให้เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงจานหลัก มันคือความลงตัวระหว่างความร้อนแรงและความหอมของเครื่องเทศ เอาจริงๆ สำหรับคนที่ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านอาหารอินเดียอย่างเรา อาจจะแยกไม่ค่อยออกในดีเทลว่าอันไหนเป็นวัตถุดิบอะไร มันออกแนวเหมือนหยิบนู่นนิด นี่หน่อย แต่มาผสมกันแล้วได้เป็นรสชาติที่กลมกล่อมและร่วมสมัย

จานโปรดที่สุดของเราคือซี่โครงแกะตุ๋นในแกงหอมรสจัดจ้าน เพราะเนื้อแกะยุ่ยเปื่อยแทบจะละลายในปาก และมันชุ่มไปด้วยเครื่องเทศที่ไม่แรงจนเกินไป ยิ่งได้ทานคู่กับไวน์ไปด้วย ยิ่งเสริมรสชาติให้ดียิ่งขึ้น

และเราชอบที่ระหว่างทางของการเสิร์ฟ เขาจะคั่นด้วยซอร์เบต์มาล้างปากหรือเคลียร์ความเผ็ดร้อนเป็นระยะ เพื่อให้เรารับรสชาติของเมนูต่อไปได้ชัดเจน จนกระทั่งถึงสุดท้ายเป็นของหวาน เชฟเดินมาราดช็อกโกแลตร้อนจัด ลงใส่ในช็อกโกแลตบอลให้ละลายเยิ้มออกมา สร้างความสนุกสนานตื่นเต้นขึ้นไปอีก ถือว่าเป็นประสบการณ์ทานอาหารอินเดียครั้งแรกที่ประทับใจมากๆ

ห้องอาหารนิลา ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 โรงแรมอมารี กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00น. สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและทำการจอง สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 0-2653-9000 หรือ nila.bangkok@amari.com

Leave a Reply